[SF YeWook] Trap




TRAP

                “เยซอง คุณจงไล่ตามผมไปตลอดชีวิตเถอะนะริมฝีปากสีสดเหยียดยิ้ม

                เฮือกกกร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดในห้องนอนของตัวเอง สายตาคมมองไปรอบๆก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจที่ถี่รัวเข้าออกช้าๆ
                ฝันบ้าอะไรเนี่ยมือหนากุมหน้าผากตัวเอง ก่อนจะล้มตัวลงนอนไปอย่างเดิม


                เฮ้ยยย เยซองเสด็จมาทำงานละหรอวะเสียงทักทายในยามเช้าของ เชว ซีวอน เพื่อนตำรวจหนุ่มดังมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินเข้ามากอดคอเยซอง
                เออ สวัสดี
                เฮ้ยย เป็นไรป่าว ช่วงนี้ท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะนายน่ะซีวอนหยุดเดิน มองหน้าอีกคนที่หันมาหาเขาเหมือนกัน หน้านายไม่มีสีแล้วนะ
                “จริงหรอเยซองนึกไปอย่างใช้ความคิด บางทีฉันอาจจะเครียดก็ได้
                “ฮ่าๆ บอกให้เลย เป็นนายฉันก็เครียด ฉันเห็นแฟ้มบนโต๊ะทำงานนายละซีวอนตบไหล่อีกคนเบาๆ ขณะเดินไปด้วยกันช้าๆ ที่หนักที่สุดก็คือ คดีที่มีเด็กกระโดดตึกตายใช่ไหม ฮ่า วันนี้นายต้องสอบผู้ต้องสงสัยสินะ
                “ใช่ ตอนบ่ายเยซองมองดูนาฬิกา เอ นายสอบปากคำไปบ้างหรือยัง คดีนี้น่ะ
                “ใช่ๆ เมื่อวานฉันสอบไปคนนึง ชื่อว่า คิมฮีซอลน่ะ แต่ท่าทางบ๊องๆยังไงก็ไม่รู้ น่ากลัวชะมัดซีวอนทำหน้าขนลุกเมื่อนึกถึงผู้ต้องสงสัยที่ตนสอบปากคำไปเมื่อวาน วันนี้เหลือแค่คนเดียวเท่านั้นแหล่ะ พอดีเมื่อวานเขาบอกว่าไม่สะดวก ขอมาวันนี้ ชื่อว่า คิมเรียวอุค
                “คิมเรียวอุคหรอเยซองเงยหน้าขึ้นมา
                ใช่ซีวอนนิ่งไปก่อนจะพูดขึ้นมาอีกเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน มีอะไรหรือเปล่า
                “เปล่าหรอก ฉันไปทำงานก่อนนะเยซองยิ้มให้ก่อนจะเดินจากออกมา
                ขอให้เป็นคนละคนทีเถอะนะ

                เยซองนั่งอ่านเอกสารเกี่ยวกับคดีที่โต๊ะ คดีที่เด็กสาว เจสสิก้า จอง กระโดดลงจากตึกอย่างปริศนาในชุดนักเรียน ทั้งๆที่อยู่ในห้องคนเดียวและประตูห้องล็อคไว้ คดีนี้มีหลายอย่างที่น่าสงสัย ก็คือ ไม่มีใครเข้าออกห้องนั้นในเวลาเกิดเหตุ   สตูเนื้อที่เธอทำค้างไว้ในห้องพัก ที่สำคัญ ทำไมเธอต้องแต่งชุดนักเรียนแบบจัดเต็มพร้อมไปเรียนทั้งๆที่เป็นคืนวันเสาร์?
                เฮ้อออออออออ ถ้าโคนันคุงมีจริงก็มาช่วยลุงทีเถอะนะหนูเอ๊ยเยซองเอนกายลงกับเก้าอี้ ดวงตาคมปิดลงอย่างอ่อนล้า แต่ก็พักสายตาได้ไม่นานเมื่อใกล้ถึงเวลานัดสอบปากคำกับผู้ต้องสงสัย ที่สอบได้แค่เพียงเพื่อนๆและคนรอบข้างของผู้ตายเท่านั้น
                เยซองหยิบเสื้อสูทด้านนอกเดินออกไปที่ห้องสอบปากคำที่เป็นผนังทึบสีขาวสี่ด้าน โดยด้านหนึ่งติดกระจกที่มองเห็นเฉพาะตอนยืนอยู่ด้านนอก แต่คนในห้องจะมองเห็นคนที่อยู่นอกห้องไม่ได้เลย เขามองเข้าไปก็เห็น คิมเรียวอุค นั่งอยู่ก่อนแล้ว ตำรวจหนุ่มมองผ่านกระจกอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่ใบหน้าหวานจะมองมาทางเขาและส่งยิ้มให้

                คุณมองเห็นผมหรอเยซองเดินเข้าไปในห้องสอบปากคำ นั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามร่างบาง เราติดกระจกลักษณะนี้ เพราะเราต้องการสังเกตการณ์สอบปากคำอย่างเงียบๆ
                “อ๋อ ใช่เรียวอุคยิ้มบางๆ งั้นฝากบอกคุณตำรวจที่ยืนอยู่ด้านนอกด้วยนะว่า ถ้าปวดฉี่ก็ไปเหอะ ผมไม่หนีไปไหนอยู่แล้วร่างบางว่าพลางหันไปทางกระจกนั่น พร้อมกับโบกมือไปให้ซีวอนที่ยืนอยู่ข้างนอก
                เด็กบ้าซีวอนสบถออกมาเบาๆ ซึ่งที่เรียวอุคพูดก็เป็นความจริง
                คุณเป็นอะไรกับเจสสิก้า จองเยซองเริ่มยิงคำถามทำให้ร่างบางหันมามองเขา ก่อนจะเหยียดยิ้ม
                เป็นรุ่นพี่ในคณะเรียวอุคไม่สบตาแต่มองไปที่มือของตัวเอง คุณคงรู้ใช่ไหมคณะมายากล มีผม พี่ฮีซอลแล้วก็แทยอน 3 คนเป็นผู้ก่อตั้ง
                “อ่าหะ คิมฮีซอลเป็นนักมายากลไพ่ ส่วนคิมแทยอนเป็นนักสะกดจิต เหมือนคุณเยซองนึกถึงข้อมูลที่เขาอ่านในแฟ้มเมื่อเช้า
                ใช่ ถูก คุณศึกษาเรื่องของพวกเรามาดีนี่
                คืนวันเกิดเหตุ คุณทำอะไรอยู่คิมเรียวอุคเยซองถามต่อเพื่อไม่ให้นอกเรื่อง
                แหม คืนวันเสาร์ ไม่มีอะไรพรากผมออกจากจอทีวีได้เรียวอุคเหยียดยิ้มไม่ตอบคำถามตรงๆยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องเครียด
                หึ คุณติดทีวีขนาดนั้นเชียวเยซองมองหน้าอีกคนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ
                คุณไม่เคยดูหรือไง คุณชายพุฒิภัทรอ่ะ รู้จักหรือเปล่า สุภาพบุรุษจุฑาเทพอ่ะร่างบางกล่าวอย่างใจเย็น ใบหน้าหวานแสดงถึงความเยาะเย้ยคนที่นั่งตรงข้ามอย่างไม่ปิดบัง
                คุณรู้สึกยังไงกับผู้ตายเยซองพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เมื่อเห็นสายตาดูถูกมองมา
                เจสสิก้าน่ะห่วยแตกเรียวอุคยื่นหน้าเข้ามาหาตำรวจหนุ่ม จะบอกให้ผมน่ะเกลียดเธอซะยิ่งกว่าอะไรดี ผมว่าเจสสิก้าเหมาะจะอยู่สมาคมแม่บ้านทหารตำรวจมากกว่าคณะมายากลของผมซะอีกริมฝีปากบางเผยอเผยให้เห็นลิ้นสีแดงฉ่ำยิ่งทำให้ตำรวจหนุ่มปั่นป่วนคนที่อยากฆ่าเธอที่สุด คือผมเรียวอุคชี้ไปที่ตัวเอง แต่ดันมีคนจัดก่อนซะละ เฮ้ออ น่าเสียดายจัง
                “คุณรู้ไหม ว่าคุณให้การไม่เป็นประโยชน์ และคำให้การของคุณทำให้เกิดการไขว้เขวได้
                “ไขว้เขวอะไร ขอโทษนะ ถ้าลิ้นของผมมันทำให้คุณไขว้เขวเรียวอุคแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากสีสดของตัวเองเบาๆอย่างจงใจ เยซองพยายามอดทนกับท่าทางของคนตรงหน้า
                นี่เด็กน้อย เลิกทำอวดเก่งได้แล้ว เธอรู้ไหมว่าใครที่นั่งเก้าอี้นั้นบ้าง พ่อค้ายา มาเฟีย ฆาตกรโรคจิตเยซองชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ที่เรียวอุคนั่ง โดยที่คนนั่งไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างไร แต่กลับไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แล้วรู้ไหมใครที่จับมา คนที่นั่งตรงข้ามนายไง
                “โอเค ผมอยากเตือนคุณบ้างเรียวอุคยิ้มเย็นอย่างไม่รู้สึกรู้สาใดๆกับคำพูดของเยซอง คุณไม่มีทางจับคนร้ายได้หรอก คุณตำรวจ คุณจะคว้าน้ำเหลว คนร้ายจะนำหน้าคุณ 1 ก้าว --- 2 ก้าว เสมอ และเมื่อใดที่คุณคิดว่าคุณตามทัน เขาจะโผล่มาอยู่ข้างหลังคุณ นี่ผมพูดเลย เอ้อ แล้วอีกอย่างนะ เจสสิก้าน่ะสมควรตาย!!”
                “ฉันจะต้องจับคนร้ายได้ เฮ้ยยย!!”  เยซองจะยกแขนทั้งสองข้างมาวางไว้ที่โต๊ะ แต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะที่ข้อมือทั้งสองมีกุญแจมือล็อคมือเขากับเก้าอี้เอาไว้อยู่ เยซองมองอีกคนอย่างหวาดๆ แต่ก็ต้องรีบซ่อนสายตานั้นไว้
                กฎข้อแรกของมายากลร่างบางยังแสดงท่าทีเย่อหยิ่งจองหองไม่เลิก คุณต้องเป็นคนที่ฉลาดสุดๆ
                “เธอเล่นบ้าอะไรเยซองตวาดอีกคน โดยที่เรียวอุคไม่ได้แสดงท่าทีทุกข์ร้อนแม้แต่น้อย ฉันจะให้เธอได้ไปเล่นในคุกอีกสัก 20 เป็นไงฮะ!!!”
                “อื้มม คิกๆ คุณไม่จับผมหรอกเสียงหัวเราะหวานใสกวนใจเขาดังขึ้นมา มือเล็กเลื่อนไปล้วงในกระเป๋าเสื้อของเยซอง  เป็นกุญแจไขนั่นเอง เรียวอุคใช้กุญแจไขให้มือของเยซองเป็นอิสระ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม
                ทำไมคุณแน่ใจนัก
                “ถ้าคุณจับผม เท่ากับคุณเชื่อว่าเวทย์มนตร์มีจริง เวทย์มนตร์ที่ทำให้กุญแจมือไปล็อคมือของคุณยังไงล่ะเรียวอุคเลิกคิ้วน้อยๆ เอ แล้วประชาชนจะมองยังไงนะ ตำรวจที่จับคนเพราะเรื่องงมงายอย่างนี้ คิกๆ 
                เยซองได้แต่พยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเองที่มีต่อร่างบางจอมอวดดีตรงหน้า มือหนาเลื่อนไปเปิดแฟ้มเพื่อทำการสอบปากคำต่อ
                เอ เดี๋ยวก่อนๆร่างบางแตะนิ้วชี้และนิ้วกลางไปที่ขมับของตนเบาๆ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันน้อยๆ อืมม ผมสัมผัสได้นะ
                “อย่ามาใช้จิตสัมผัสกับผมเสียงเข้มเอ่ยเป็นเชิงขู่ เมื่อนึกขึ้นได้ถึงข้อมูลในแฟ้มที่ระบุว่า คิมเรียวอุคเป็นนักสะกดจิตและสามารถอ่านใจของคนได้
                อ่า คุณรู้จักผมมาก่อนงั้นหรอ ผมไม่รู้เลยนะเนี่ยดวงตาคู่สวยเบิกกว้างฉายแววดีใจ เอ ผมนึกก่อนนะ เคยรู้จักคุณที่ไหน อืมมม ร้านอาหาร ไม่ เวที ไม่ใช่ๆ อ๋อ โรงเรียน!! นี่คุณเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมนี่
                หยุดนะ คิมเรียวอุค
                เอ แล้วมีอะไรอีกนะเยซองมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย อีกคนยังคงใช้จิตสัมผัสอ่านใจเขาต่อไป อ่า คุณชอบผมงั้นหรอ ไม่สิ เข้าขั้นหลงสุดๆ นี่ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย
                คุณเลิกเล่นตลกนี่ได้หรือยังร่างสูงเริ่มลุกลี้ลุกลน เมื่อสิ่งที่เรียวอุคอ่านได้นั้น มันจริงทั้งหมด!!
                คุณอย่ามาเฉไฉเลย ผมรู้ว่าคุณน่ะหวังอะไรจากตัวผม จูบ โอ๊ะ ไม่สิ มากกว่าจูบด้วยซ้ำร่างบางเหยียดยิ้ม
                พอ หยุดเดี๋ยวนี้!!!!” เยซองตะโกนลั่นห้อง ทำให้เรียวอุคสะดุ้งไปเล็กน้อย
                “โอ๊ะ ขอโทษนะ ผมทำให้คุณประสาทหรือเปล่า  เรียวอุคมองคนที่กำลังก้มหน้า มือหนานั่นสั่นเทาจากความสับสนในจิตใจ ความลับที่เขาเก็บไว้มานาน ถูกคนที่ไม่อยากให้รู้ที่สุดอ่านจนหมดเปลือก
                ไม่ ผมไม่เป็นไรเยซองกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก ผมขอสอบปากคำคุณต่อนะ
                ‘ผมต่างหากที่อ่อนแอเกินไป


                เมื่อเลิกงาน เยซองกลับมาที่คอนโดอย่างหมดแรง ร่างสูงนั่งที่โซฟาดูทีวี บนโต๊ะเตี้ยมีขวดไวน์ พร้อมแก้วทรงสูงที่มีน้ำสีอำพันวางอยู่ เยซองหยิบไวน์ขึ้นมาจิบน้อยๆ ก่อนจะรู้สึกตัวได้ถึงอะไรบางอย่าง
                มีคนอยู่ในห้อง
                เยซองวางแก้วไวน์ลงช้าๆ ก่อนจะเดินไปหยิบปืนอย่างเงียบเชียบ ร่างสูงพยายามเงี่ยหูฟังเสียงเดินของอีกคนแล้วค่อยๆตามไปช้าๆ ไม่นาน ก็เห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ในครัว เยซองยืนนิ่งอยู่ด้านนอกครัวสักพัก ก่อนจะจ่อปืนเข้าที่หัวของคนแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว
                หยุด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เอ๊ะเยซองมองใบหน้าของอีกคนที่ยกมือขึ้นสองข้างอย่างประหลาดใจ เรียวอุค  
                ผมยอมแล้วครับ คุณตำรวจเสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างยั่วเย้านิดๆทำให้เขาใจสั่นอย่างแปลกๆ
                คุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วคุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไงเยซองค่อยๆลดปืนลง มองดูอีกคนที่เอาหลังพิงตู้เย็นอยู่
                ผมแค่จะมาช่วยคุณเรียวอุคยิ้มหวาน ผมคิดว่าผมรู้นะ ว่าใครฆ่าเจสสิก้า
                “คุณคิดว่าใคร
                “คิมแทยอนเยซองขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเรียวอุคบอก
                คิมแทยอน อยู่ที่ลาสเวกัสในคืนวันเกิดเหตุ เรายืนยันได้จากตั๋วเครื่องบินเยซองกอดอก แล้วเธอจะฆ่าเจสสิก้า จอง ที่อยู่เกาหลีได้ยังไง
                “นั่นแหล่ะ แล้วคุณจะแปลกใจเมื่อรู้วิธีการของแทยอนเรียวอุคส่งรอยยิ้มยั่วยวนให้ร่างสูงอีกครั้ง ผมอยากดื่มไวน์จังเลย ห้องคุณมีบ้างไหมครับ
                “ตามผมมาเยซองเก็บปืนไว้ที่เดิม ก่อนจะพาร่างบางไปที่โซฟาที่ตนนั่ง
               
                อ่า รสชาติดีจังร่างบางระบายยิ้มสวยมองแก้วไวน์ในมือ ทำเอาคนแอบมองใจกระตุกไปเล็กน้อย
                แล้ววิธีการของคิมแทยอนคืออะไรเยซองถามต่อ นั่งมองอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน
                คุณเคยได้ยินการบำบัดด้วยการสะกดจิตบ้างไหมครับคุณตำรวจเรียวอุคหมุนแก้วไวน์ในมือช้าๆ ปรายตามามองอีกคนที่ส่ายหน้าเบาๆ
                การบำบัดด้วยการสะกดจิตเรียวอุควาแก้วไวน์ลงกับโต๊ะ คือการสะกดจิตให้ผู้ป่วยคิดว่าตัวเองมีสภาพเป็นอีกอย่างหนึ่ง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นอีกอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ความกล้าที่จะทำอะไรต่างๆ ช่วยกลบด้านมืดในจิตใจ รวมไปถึงความกลัว
                “อ่าหะเยซองฟังคนตรงหน้าอย่างสนใจ
                เจสสิก้า ต้องการความมั่นใจในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอจึงมาหาแทยอนเรียวอุคถอนหายใจเบาๆ
                เรื่องแค่นี้ต้องไปหานักบำบัดด้วยหรอเยซองขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
                นั่นแหล่ะ ผมถึงได้บอกว่าเธอห่วยแตกไงเรียวอุคว่านึกถึงตนที่เห็นเจสสิก้ามาหาแทยอน เธอให้แทยอนสะกดจิต ว่าเธอกำลังจะแต่งตัวด้วยชุดนักเรียน ไปสอบ เดินเข้าห้องสอบด้วยความมั่นใจ เพราะเธอเป็นพวกตื่นสนามสอบอย่างรุนแรง เธอจึงต้องการความมั่นใจว่า เธอจะไม่รนจนความรู้เธอไหลออกหัวซะก่อน
                อ่าหะ แล้วมันจะทำให้เธอตายได้ยังไงเยซองยังคงไม่เข้าใจ
                ลักษณะของคนที่โดนสะกดจิตคือ มองโลกแห่งความจริงผิดเพี้ยนไปเรียวอุคยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สมมุติว่าผมสะกดจิตคุณ ว่าคุณอยู่ในกรงยีราฟ คุณก็จะเห็นผมเป็นยีราฟ ทั้งๆที่ผมเป็นคน
                “อ๋อเยซองมองดูใบหน้าหวานของคนตรงหน้าอย่างเผลอไผล
                จากกรณีของเจสสิก้า ผมคิดว่า เธอเห็นระเบียงห้องเป็นห้องสอบ เธอจึงก้าวเข้าไป และตกลงมาเรียวอุคนั่งพิงโซฟา ก็แค่นั้น ที่ผมคิด คุณลองดูหลักฐานต่างๆดูเอาเองสิ
                “แล้วคิมแทยอน สะกดจิตผู้ตายยังไง อย่าบอกนะว่า........โทรศัพท์เยซองเบิกตากว้าง เมื่อนึกถึงข้อมูลในแฟ้ม ที่ระบุว่า คิมแทยอนสามารถสะกดจิตคนทางโทรศัพท์ได้
                ถูกต้อง แค่พูดคำพูดที่เป็นเหมือนคำสั่งสะกดจิตลงไป ก็เรียบร้อย เธอจึงได้แต่งชุดนักเรียนแบบจัดเต็มไงล่ะ”    เยซองมองหน้าร่างบางที่กำลังพูดอยู่ แล้วนึกตาม  เขาเริ่มจะเห็นด้วย เพราะสภาพที่เกิดเหตุไม่เหมือนว่า ผู้ตายเตรียมตัวจะฆ่าตัวตาย สังเกตจากสตูเนื้อที่ผู้ตายต้มค้างไว้ในห้องพัก และละครคุณชายพุฒิภัทรที่เปิดเอาไว้ในทีวี
                แต่ว่านะ การสะกดจิตมันทำได้ขนาดนั้นเลยหรอเรียวอุคยกยิ้มเมื่ออีกคนยังคงสงสัย
                ถ้างั้นเรียวอุคเขยิบเข้ามาใกล้อีกคนมากขึ้น ผมจะลองสะกดจิตคุณนะ เอาไหม
                “ก ก็ได้เยซองลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ว่าก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกัน อย่าให้ผมเล่นอะไรแผลงๆนะคุณ
                “ไม่หรอกน่า หลับตาสิครับเรียวอุคยิ้ม มองดูอีกคนหลับตาลง ร่างบางเขยิบเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้น เสียงหวานกระซิบแนบหูของอีกคน
                หลับไปซะเยซอง ทันทีที่ผมดีดนิ้ว ผมคือคนรักของคุณ เราสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก สิ่งที่คุณต้องทำคือจูบผม จนกว่าผมจะหลอมละลายคาอกของคุณ และเมื่อผมดีดนิ้วอีกครั้ง คุณจะหยุดและกลับมาเป็นคนเดิม
                เรียวอุคผละออกมา มองดูอีกคนที่กำลังหลับตาอยู่ ก่อนจะดีดนิ้วใกล้ๆกับหน้าของเยซอง
                เป๊าะ!!
                เมื่อได้ยินเสียงดีดนิ้ว เยซองลืมตาขึ้นมา เสียงดีดนิ้วนั่นเหมือนสัญญาณอะไรบางอย่างที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้เพียงแต่ว่า เมื่อได้ยินแล้ว หัวสมองก็ขาวโพลน สายตาเขาเหมือนมองไม่เห็นอะไรอีกนอกจากร่างบางตรงหน้า เป้าหมายของเขาก็คือ ริมฝากบางสีสวยนั่นเท่านั้น
                ร่างสูงเลื่อนใบหน้าเข้าไปหาอีกคนที่รออยู่แล้ว ริมฝีปากหนาบดเบียดอย่างร้อนแรงกับริมฝีปากบาง ลิ้นเรียวไล้เลียชิมความหวานด้านนอก ดูดดึงริมฝีปากอิ่มอย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวาน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็กอย่างลึกซึ้ง ไล่สำรวจไปทั่วโพรงปากเล็ก ร่างบางเขยิบกายขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักกว้าง แลกรสสัมผัสกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งหอมหวาน ทั้งซาบซ่าน จนร่างบางแทบจะละลายคาวงแขนแกร่ง กลิ่นกายหอมยวนใจแตะจมูกของร่างสูงเบาๆ ผิวกายนุ่มนิ่มขาวเนียนลื่นมือ ไม่อยากหยุดแค่จูบเลยจริงๆ  มือหนากอดอีกคนไว้แน่น มือเล็กโอบรอบคอแกร่งสอดเข้าไปในกลุ่มผมสีดำ ความวาบหวิวแผ่ซ่านไปทั่วกายเล็กอย่างช่วยไม่ได้ เมื่ออีกคนลูบไล้ไปทั่วร่างของตน เนื้อกายก็แนบชิดกันมีเพียงแค่อาภรณ์บางๆกั้นเอาไว้เท่านั้น 
                แฮ่ก แฮ่ก อื้มมมเรียวอุคผละออกมาสักพักแต่ก็ถูกริมฝีปากนั่นก็ประกบลงมาอีก ร่างบางครางต่ำในลำคออย่างพึงใจ  ก่อนจะต้องรีบดีดนิ้ว เมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรบางที่ตัวเองนั่งทับอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลง...
                เป๊าะ!!!
                เฮือกทั้งสองผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมของเยซองเบิกกว้าง เมื่อรับรู้ได้จากสภาพร่างกายของตนและคนตรงหน้าว่า จูบเมื่อสักครู่มันเผ็ดร้อนแค่ไหน เยซองมองหน้าอีกคนที่หอบหายใจน้อยๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ริมฝีปากบางนั่น ยังคงมีคราบใสๆอยู่จากกิจกรรมเมื่อครู่
                เป็นไงบ้างเรียวอุคถามอีกคนทั้งๆที่ยังหอบอยู่ เยซองค่อยๆผ่อนลมหายใจของตัวเอง
                หวานเสียงเข้มตอบสั้นๆ ทำให้ใบหน้าของอีกคนยิ่งขึ้นสี
                มะ ไม่ใช่ หมายถึงสะกดจิต เรียวอุคกล่าวอ้อมแอ้มอย่างเขินอาย เยซองมองคนตรงหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ
                ต่างกับคิมเรียวอุคจอมเย่อหยิ่งในห้องสอบปากคำเลยนะ
                ผมเข้าใจแล้ว พรุ่งนี้ ผมจะสอบสวนคิมแทยอนอีกทีเยซองว่าก่อนจะหันมาทางอีกคน แล้วทำไมคุณถึงช่วยผมล่ะ เรียวอุค
                “ก็แค่อยากให้เกมส์มันสูสีกันหน่อยร่างบางยกยิ้ม มือเล็กยกไวน์ขึ้นจิบอีกครั้ง ผมรู้ว่าแทยอนน่ะ เก่งขนาดไหน และรู้ด้วยว่าพวกคุณไม่มีทางสู้เธอได้
                เยซองพยักหน้าอย่างเข้าใจ ขอบคุณมากนะ เรียวอุคเยซองส่งยิ้มไปให้อีกคน
                ไม่ๆ คุณเรียกผมว่าอีกอย่างนึงสิเรียวอุคขยับเข้ามาใกล้ร่างสูง ลับหลังผม คุณเรียกผมว่า ตัวเล็กเรียวอุคยิ้มหวาน ร่างสูงประหลาดใจเล็กน้อยที่เรียวอุครู้ ผมชอบฟังนะ ตัวเล็กเรียวอุคกอดร่างสูง ใบหน้าหวานซบลงกับอกแกร่งอย่างออดอ้อน
                “ก็ได้มือหนายกขึ้นมาอย่างกล้าๆ กลัว ก่อนจะตัดสินใจวางไปบนหัวทุยและลูบเบาๆอย่างเอ็นดู เยซองยิ้มน้อยๆ ขอบคุณมากนะครับ ตัวเล็ก
               
                หลังจากนั่งจิบไวน์ด้วยกันสักพัก เรียวอุคก็ขอตัวกลับ ร่างสูงจึงเดินไปส่งแขกคนสำคัญที่หน้าห้อง
                บ๊าย บายนะเยซองยิ้มให้กับอีกคนที่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
                คุณตำรวจครับเรียวอุคยิ้มหวาน ใบหน้าสวยซ่อนความเขินอายเอาไว้ไม่มิด คุณยัง เอ่อ ชอบผมอยู่ไหม
                เยซองเลิกคิ้วๆน้อยอย่างแปลกใจที่เรียวอุคถามอย่างนั้น ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก
                ไม่ใช่จิตสัมผัสดูล่ะครับ
                ผมไม่อยากใช้เรียวอุคกล่าวอย่างอ้อมแอ้ม ผมอยากฟังจากปากคุณมากกว่า
                เยซองไม่ตอบ แต่ดึงคนตัวเล็กตรงหน้าเข้ามากอดไว้แนบอก
                ผมรักคุณนะเรียวอุค รัก มาตลอดเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแผ่วเบา ดวงตาหวานเบิกกว้างอย่างดีใจ
                จ จริงนะครับเรียวอุคเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนที่ส่งสายตาหวานซึ้งมาให้
                จริงครับ แล้ว...ตัวเล็กล่ะเยซองเชยคางอีกคนขึ้นมาให้สบตากับเขา
                ผมก็คิดว่า ผมรักคุณ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ตะ อื้มมมคำพูดถูกกลืนลงคอไปหมดเมื่ออีกคนฉกวูบที่มาริมฝีปากของตน บดเบียดเคล้าคลึงดูดเอาเรี่ยวแรงไปจนเรียวอุคแทบยืนไม่อยู่  คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาสบกันตาหวานซึ้ง เพียงแค่นั้นก็รู้ถึงความต้องการของกันและกันได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป...



                “อ่ะ อ๊า คุณตำรวจจจ อื้มมม แรงอีก
                “อึก เรียวอุค นะ แน่น อื้อออ
ร่างสองร่างบดเบียดกันจนแทบจะหลอมหลวมเป็นร่างเดียวกัน เตียงหลังใหญ่สั่นน้อยๆจากกิจกรรมรักของทั้งสองคน เรียวขาขาวอ้าออกกว้าง เพื่อรับการแทรกกายถี่รัวของอีกคน ดวงหน้าหวานปรี่ตามองใบหน้าคมขณะที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความต้องการ ร่างบางแอ่นสะโพกรับแรงกระแทกที่ส่งเข้ามาอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
อ๊า ลึกอีกๆ ซี้ดดดด เยี่ยมขาเรียวขาวโอบรัดสะโพกสอบไว้แน่น ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าดู ยิ่งทำให้อารมณ์พุ่งสูงในยามนี้ เยซองกอดรัดอีกคนแนบกาย ริมฝีปากหนาขบเม้มฝากรอยรักไว้ทั่วอกบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า จมูกโด่งลากไล้ไปทั่วผิวกายขาวเนียนหอมยวนใจ ช่องทางรักร้อนตอดรัดจนเขาแทบคลั่ง
อื้มมมม คุณตำรวจจจ มันเสียว อ๊าริมฝีปากบางเผยออ้าระบายลมร้อนในกายที่พุ่งสูงแทบจะระเบิด เสียงหวานหอบครางจนแหบพร่า ร่างบางสวนสะโพกให้ส่วนปลายของอีกคนกระแทกเข้ามาได้ลึกอีกตามที่ใจปรารถนา
เรียกผม เยซองร่างสูงกระซิบแนบหู เรียวลิ้นเลียเบาๆไปที่ใบหูขาวอย่างปลุกเร้า
อื้ออออ เยซองงง
ครับ
แรงอีกนะ อ๊า อ่ะ อื้มมมม”  ร่างบางดิ้นพล่าน เมื่อคำขอถูกสนองตอบอย่างถึงใจ เยซองกระแทกสะโพกถี่รัวและลึกขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงปลายทางที่จะมาถึง
อ่ะ ผมจะไป อื้มมมม เรียวอุค
อ่ะ อ๊างงงงงงงงงงเสียงหวานหวีดร้องประสานกับเสียงครางต่ำ รับรู้ได้ถึงความอุ่นวาบที่เข้ามาในร่างกายจนล้นออกมานอกช่องทางรักสีสวย
แฮ่ก แฮ่ก เยี่ยมที่สุดเรียวอุคเอ่ยชมอีกคนที่ซบลงมาที่อกบางอย่างอ่อนแรง
คุณก็รัดผมแน่นมากเลยเยซองยิ้มให้คนตัวเล็กอย่างเหนื่อยอ่อน ครั้งแรกกับคนที่ตัวเองรัก ถึงจะเหนื่อยกายแต่สุขใจมากเหลือเกิน ริมฝีปากหนาบดจูบเบาๆไปที่ริมฝีปากแดงเห่อจากการครอบครองของเขาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
ผมรักคุณ รัก..มากที่สุดเยซองกระซิบเสียงซ่าน มองตาอีกคนที่เขินอายจนแทบจะละลายกลายเป็นน้ำ
ผมก็รักคุณนะเรียวอุคกดจูบไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเยซอง แล้วมองอีกคนด้วยสายตาหวานเยิ้ม
หลับกันเถอะนะครับ ตัวเล็กของผมเยซองจูบเบาๆไปที่หน้าผากเนียนสวย ดึงคนในอ้อมกอดมาไว้แนบอก ก่อนจะหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างอิ่มใจ


“…………”
เป๊าะ!!
เยซองลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงดีดนิ้ว เห็นร่างบางตรงหน้าที่ยิ้มให้ก่อนอยู่แล้ว
อรุณสวัสดิ์ครับ คนสวยร่างสูงดึงอีกคนมาจูบเคล้าคลึงเบาๆที่ริมฝีปากสีเชอร์รี่ “morning kiss ครับเยซองมองหน้าอีกคนที่ขึ้นสีระเรื่อเบาๆอย่างน่ารัก
อรุณสวัสดิ์ครับเรียวอุคยิ้มหวาน ใบหน้าหวานซบลงกับอกแกร่งที่ให้ไออุ่นเขาตลอดขึ้น
คุณปลุกใครๆด้วยการดีดนิ้วเสมอหรอครับเยซองยิ้มอบอุ่นให้อีกคน
ไม่ครับเรียวอุคจูบเบาๆไปที่ริมฝีปากอิ่ม ผมปลุกแค่คุณคนเดียว ที่รักของผม
แสดงว่า ผมเป็นคนพิเศษของคุณงั้นสิเยซองพลิกตัวขึ้นมาคร่อมอีกคนเอาไว้ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้คนตัวเล็กได้เขินอาย
จะว่าอย่างนั้นก็ได้นะ คุณตำรวจ อ่า ชักอยากเป็นคนร้ายซะแล้วสิ คิกๆแขนขาวโอบรอบลำคอแกร่ง ก่อนจะดึงอีกคนให้มารับจูบร้อนแรงจากตน เฮ้อ คนตัวเล็กทั้งน่ารัก ทั้งยั่วเย้าแบบนี้ เยซองจะได้ลุกจากเตียงเมื่อไรกันเนี่ย...


กว่าจะลุกจากเตียงได้ก็ฟัดกับร่างบางไปซะหลายรอบ จนคนตัวเล็กต้องขู่ว่าจะเสกให้กลายเป็นลิงจึงจะยอมลุกจากที่นอนแล้วมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เยซองเดินเข้ามาในตึกทำงาน ริมฝีปากหนาระบายยิ้มตลอดทางที่เดินมา อ่า เช้าวันนี้ช่างเป็นเช้าที่สดใสเสียจริง
แหม ไอ่เย่ ยิ้มเหมือนคนบ้าเลยนะนายอ่ะเชว ซีวอนเพื่อนรักทักทายด้วยถ้อยคำอันเป็นมิตร ก่อนจะเดินไปด้วยกัน
คนมันอิ่มใจอ่ะ มีไรป่าววะ”  คนที่อารมณ์ดียักคิ้วให้กับอีกคน
อันย่ะ เดี๋ยวนี้มีอิ่มอก อิ่มใจ ห่านเหอะ งานการอ่ะ ขนไปทำเมื่อคืนได้ทำบ้างไหมวะ หรือมัวแต่ทำการบ้านส่ง     คุณครู ไหนอยู่ ซีวอนกระทุ้งอีกคนที่ยิ้มเขินด้วยศอกเบาๆ
ทำสิวะ วันนี้เตรียมเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบเพิ่มเติมได้เลย ได้ข้อมูลสำคัญมาเพิ่มเยซองวางแฟ้มงานไว้ที่โต๊ะเมื่อเดินมาถึง
คดีไหน คดี เจสสิก้า จอง อ่ะนะซีวอนนึก ก่อนจะผิดสังเกต เมื่อเห็นอีกคนนิ่งไป
เฮ้ เยซอง นายเป็นอะไรซีวอนเขย่าตัวอีกคนที่ยืนนิ่ง ดวงตาที่เคยสดใสกลับไร้แวว
ค คือ ฉัน ฉันฆ่าเจสสิก้า จองเยซองมองหน้าอีกคนที่ตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
บ้าหรือเปล่า นายพูดอะไรซีวอนยังคงงงไม่หาย
ฉันเป็นคนฆ่าเจสสิก้า จอง นายจับฉันทีเยซองยืนมือมาให้คนตรงหน้าใส่กุญแจมือ ฉันเป็นคนผลักเธอตกจากหน้าต่าง ฉันฆ่าเจสสิก้า จอง ฉันนี่แหล่ะ ฉันเป็นคนฆ่าเธอเองเยซองพูดวกไปวนมาเหมือนหุ่นกระป๋องเจ๊งๆตัวหนึ่ง ซีวอนเรียกให้ตำรวจคนอื่นๆมาช่วยดู จนสุดท้าย ต้องถูกเอาไปขังไว้ในห้องสอบปากคำ
ผู้กำกับครับ นี่มัน ไม่ปกติซีวอนพูดกับผู้กำกับขณะยืนมองเยซองอยู่ข้างนอกห้อง
เยซองสารภาพออกมาเอง ยังไงซะ เราก็ต้องขังเขาไว้ก่อนผู้กำกับถอนหายใจเบาๆ
ผู้กำกับครับ
ซีวอน ผมก็ลำบากใจเหมือนกันนะ ที่ตำรวจลูกน้องผมพูดออกมาว่าตัวเองเป็นฆาตกรผู้กำกับหันไปทางตำรวจหนุ่มคุณไปทำสิ่งที่ควรทำเถอะนะ ซีวอน
ซีวอนโค้งให้ผู้กำกับ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องสอบปากคำ



คดีฆาตกรรมนางสาวเจสสิก้า จอง ได้จบลงแล้วค่ะ คนร้ายเข้ามอบตัวกับตำรวจด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือ นาย        คิมเยซอง ตำรวจเจ้าของคดี ซึ่งคดีนี้เป็นที่โจษจันไปทั่วประเทศ ถึงความไว้ใจได้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ....
ร่างบางนั่งดูข่าวในทีวีพลางเหยียดยิ้มด้วยความสะใจ มือเล็กรินไวน์ก่อนจะยกขึ้นจิบเบาๆ
เรียวอุคฮีซอลเดินเข้ามาหาอีกคนที่นั่งอยู่หน้าทีวี
พี่ฮีซอลร่างบางยิ้มให้กับผู้มาเยือนที่นั่งลงข้างๆเขา
นายเป็นคนทำใช่ไหม ตำรวจคนนั้นน่ะเรียวอุคหันหน้าไปหาคนที่ถามก่อนจะยิ้มบางๆ
ใช่ครับ
ทำไมล่ะ นายไม่ได้ชอบตำรวจคนนั้นหรอฮีซอลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินคำตอบของน้องชาย
แต่ผมยอมไม่ได้ ถ้าคณะมายากลของเราต้องล่ม เพราะแทยอนเข้าคุก แทยอนทำไมถึงได้ทำเรื่องงี่เง่าอย่างนั้นลงไปนะเรียวอุคกล่าวอย่างอารมณ์เสีย
นายก็รู้ แทยอนกับเจสสิก้าน่ะ มีปัญหากัน แล้วเทยอนก็แค่ใจร้อนไปหน่อยฮีซอลตบไหล่น้องชายเบาๆ แต่นายทำอย่างนี้ก็ดีนะ แทยอนจะได้ไม่ต้องเข้าคุก มีคนมาเป็นแพะรับบาปแทน”  ฮีซอลมองหน้าน้องชายนิ่ง แต่นายแน่ใจนะ ว่านายจะไม่เสียใจทีหลัง
ไม่ครับเรียวอุคยกไวน์ขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มร้าย เขาน่ะคลั่งไคล้ผมสุดๆ ผมก็แค่ใช้เขาเป็นเครื่องมือ ก็เท่านั้นเรียวอุคไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
ให้มันจริงฮีซอลยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกไป
ขอโทษนะ คุณตำรวจ คุณไม่น่าเป็นคนที่จิตใจอ่อนไหวง่ายเลยเรียวอุคยกยิ้มที่มุมปาก นึกถึงเมื่อตอนที่เขาอ่านใจเยซองในห้องสอบปากคำ ทำให้เขารู้ว่า เยซองเป็นคนจิตอ่อนแค่ไหน แล้วทันใดนั้น แผนการร้ายก็เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว
เช้าวันนั้น เรียวอุคตื่นขึ้นมาก่อนเยซองสักพัก ร่างบางมองใบหน้าของคนที่ยังหลับอยู่ ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปแตะที่หัวของอีกคนเบาๆ
เยซอง เมื่อใดก็ตามที่คุณได้ยินชื่อ เจสสิก้า จอง คุณจะสารภาพออกมาว่าคุณคือคนร้ายในคดีนี้และขอให้เพื่อนของคุณจับตัวคุณไป 
เป๊าะ
เยซองลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงดีดนิ้ว เห็นร่างบางตรงหน้าที่ยิ้มให้ก่อนอยู่แล้ว
อรุณสวัสดิ์ครับ คนสวย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น