[SF YeWook] Behind the Curtain



Behind the Curtain

                รางวัลขวัญใจมหาชนประจำปีนี้ได้แก่ คิมเยซอง คร้าบบบ
                เสียงพิธีกรประกาศชื่อ คิมเยซอง ได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนจากสื่อยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงเกาหลี ใบหน้าหล่อเหลาที่เปล่งประกายในชุดสูทของ Giorgio Armani ก้าวขึ้นมาบนเวที โค้งคำนับผู้ชมทุกคน ก่อนจะรับรางวัลและกล่าวขอบคุณตามธรรมเนียมท่ามกลางเสียงปรบมือดังกระหึ่มฮอลล์สถานที่จัดงาน
                คิมเยซอง ฉายาเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงของเกาหลี เป็นที่ยกย่องเชิดชูจากบรรดาแฟนคลับ สื่อมวลชนและศิลปินด้วยกันเอง การรับรางวัลขวัญใจมหาชนแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
                “ผมต้องขอขอบคุณทุกๆคนมากนะครับ มอบรางวัลนี้ให้กับผม...เสียงทุ้มนุ่มเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้หลายคนหลงใหลดังขึ้น ท่ามกลางเสียงแฟลชมากมายไม่ขาดสาย
               
                “ยินดีด้วยน้า เยซอง พี่ว่าแล้วนายต้องได้เสียงเอ่ยชื่นชมมากมายต่อร่างสูงหลังจากลงจากเวที
                นายสมควรได้ที่สุดแล้วล่ะเยซอง ยินดีด้วยนะ
                “เยซอง เจ๋งที่สุดเลยยย
                “เฮ้ หลังเลิกงานไปฉลองกันดีกว่า
                “ครับ ครับ ขอบคุณมากนะครับทุกคนร่างสูงก้มหัวขอบคุณผู้คนที่เข้ามาแสดงความยินดี ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนในวงการมากมาย ด้วยความนอบน้อมถ่อมตน
                เป็นอย่างนี้นี่เอง ทุกคนถึงได้รักเขา

                อีกด้านหนึ่ง ยังมีร่างเล็กที่นั่งยิ้มอยู่หน้าทีวีระหว่างการถ่ายทอดสดพิธีประกาศรางวัล ยิ่งเมื่อประกาศรางวัลขวัญใจมหาชนว่าเป็นของ คิมเยซองแล้ว มือเล็กยกขึ้นมาปรบมือด้วยความดีใจราวกับว่าได้รางวัลเสียเอง
                พี่เยซอง เจ้าชายของเรียวอุค เก่งที่สุดเลยย ><”  ร่างบางกระโดดพลุ้งจากโซฟาแล้วเดินไปที่ครัวอย่างสบายอารมณ์ วันนี้ต้องทำอะไรเป็นพิเศษรอพี่เยซองซะแล้วริมฝีปากยกยิ้มอย่างมีความสุข เขา คิมเรียวอุค คนรักของเจ้าชายแห่งวงการบันเทิง คิมเยซอง ซึ่งคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ทุกวันนี้ทั้งสองคนอาศัยอยู่ด้วยกันที่คอนโดสุดหรูใจกลางเมือง  เยซองจบการแสดงมาได้เป็นดาราเจ้าบทบาทดังที่ฝัน ส่วนคนตัวเล็กนั้นจบด้านดนตรีมา หวังที่จะเป็นครูสอนดนตรี แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ฝันไว้ เพราะเยซองขอร้องว่า ให้อยู่แต่ที่บ้าน ร่างสูงจะหาเลี้ยงเขาเอง
                ร่างบางยกยิ้มอย่างมีความสุขเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ ขณะที่ทำอาหารให้กับคนรักเพื่อเป็นการฉลองอย่างสุดฝีมือ ทุกวันนี้เขาอยู่กินอย่างสบาย เพราะเยซองนั้นโด่งดังเป็นพลุแตกและจัดว่าเป็นดาราคิวทองเลยทีเดียว
                แต่เรื่องที่เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงนี้มีคนรักที่อาศัยอยู่ด้วยกันแล้ว ไม่ได้รับการเปิดเผยเป็นเพราะ ลีดงเฮ ผู้จัดการส่วนตัวของร่างสูงขอเอาไว้ เกรงว่าจะกระทบกับหน้าที่การงานที่กำลังไปได้ดีของเยซอง
                เอาละร่างบางจัดเรียงโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม มันเต็มไปด้วยอาหารจานโปรดของเยซองประดับด้วยเทียนไขและแชมเปญที่คนทั้งคู่ชอบวางอยู่ ร่างบางกระดี๊กระด๊าไปนั่งรอเยซองที่โซฟาอย่างตื่นเต้น
                พี่เยซองจะต้องชอบแน่ๆเลย เรียวอุคทำสุดฝีมือทุกอย่างเลยนะ ><’
                แต่แล้ว ร่างบางก็ต้องรอเก้อ เมื่อเข็มนาฬิกายังคงเดินไปเรื่อยๆจนใกล้เลข 2 ยังไร้ซึ่งวี่แววของร่างสูง ร่างบางรอจนกระทั่งผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว



                “เรียวอุคเสียงเปิดประตูเข้ามาทำให้ร่างบางสะดุ้ง สายตาหันไปดูว่าเป็นใครที่เดินเข้ามาในห้องก็ต้องรีบลุกไปรับ
                พี่เยซองร่างสูงอยู่ในสภาพกึ่งเมานิดๆ โผเข้ากอดร่างบางเมื่อมาถึง ดื่มมาหรอครับเนี่ย
                “ช่ายมือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังแนบกับเสื้อเชิ้ตตัวบางที่เรียวอุคสวมใส่อยู่ แต่ก็ยังพอขับรถมาได้น่ะ
                “ไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะไปเตรียมน้ำให้อาบร่างบางผละออกจากอกแกร่งแล้วไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ร่างสูงเดินตามไปแบบไม่รีบร้อนนัก เพราะเขายังอยู่ในอาการมึนๆ
                ร่างบางเทน้ำใส่อ่างอาบน้ำ ผสมครีมอาบน้ำกลิ่นโปรดของเยซองลงไป ก่อนจะรู้สึกถึงอีกคนที่เดินตามเข้ามาในห้อง พร้อมเสียงปิดประตู ร่างบางหันหน้าไปก่อนจะชะงัก
                พี่เยซองครับ เอ่อร่างบางหน้าขึ้นสีระเรื่อเบาๆ เมื่ออีกคนที่ตามเข้ามาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก เผยให้เห็นแผงอกแกร่ง หน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อนิดๆ ผิวขาวที่ขึ้นสีหน่อยๆจากอุณหภูมิในห้องน้ำที่สูงขึ้นเล็กน้อยจากน้ำอุ่นในอ่าง
                ถอดเสื้อสิครับร่างสูงเดินมาประชิดตัวคนตัวเล็กที่ได้แต่ก้มหน้างุด มันไม่ชินซะทีที่ได้เห็นร่างกายของคนตรงหน้า ยิ่งพอเจ้าตัวไปแอบฟิตกล้ามหน้าท้องมาอย่างนี้
                โอ๊ยยยยยย คิมเรียวอุคจะละลายแย้วววว >//<’
                ร่างสูงลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำเรียบร้อย สายตากวาดมาหาร่างบางที่ยังคงเขินอายอยู่นิดๆ เป็นเชิงให้ลงมาอาบน้ำด้วยกัน
                มือบางเลื่อนลงไปปลดกระดุมของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ มือสั่นเทานิดๆกับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อนั่นถูกใจร่างสูงเสียจริง ร่างบางปลดอาภรณ์ออกหมด เผยให้เห็นเรือนร่างบอบบางสีน้ำผึ้ง ขาเรียวเล็กก้าวลงไปในอ่างอย่างเกร็งๆ
                วันนี้พี่มีความสุขจังเลย เรียวอุคดึงแผ่นหลังบางมาแนบชิดอกแกร่งของตน กอดรัดแน่นไปที่เอวเล็ก ริมฝีปากหนากดจูบเคล้าไปทั่วแผ่นหลังบาง คนในอ้อมกอดวาบหวามแปลกๆจากสัมผัสที่ได้รับ
                พี่มีความสุขผมก็มีความสุขครับ เสียงหวานเอื้อนเอ่ย จมูกโด่งฝังไปที่แก้มนุ่มนิ่มของร่างบาง
                น่ารักที่สุดเลย สาวน้อยของพี่เสียงทุ้มนุ่มกระซิบแนบหู มือหนาเลื่อนลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนลื่นนุ่มมือ ร่างบางสั่นไหวนิดๆเมื่อร่างสูงจงใจปลุกเร้ากันเช่นนี้
                “อ่ะ พี่เยซองงเสียงหวานหลุดครางออกมาบางเบา เมื่อมือหนาเริ่มเลื่อนไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวของตนอย่างย่ามใจ ในขณะที่อีกมือหนึ่งร่างสูงใช้มันสะกิดเม็ดสีทับทิมให้แข็งขืน
                ไปที่เตียงกันเถอะครับคนดีร่างสูงยกร่างบางขึ้นแนบอก ขายาวก้าวไปที่เตียงก่อนจะวางร่างบางลงหลังแนบเตียง ริมฝีปากร้อนประทับจูบอ่อนหวานที่ริมฝีปากบาง บดเบียดริมฝีปากนุ่มเข้าหากันด้วยแรงอารมณ์ ตามมาด้วยบทเพลงรักร้อนแรงที่คนทั้งสองบรรเลงร่วมกัน เสียงครางหวานประสานเสียงต่ำบ่งบอกถึงอารมณ์วาบหวามอย่างขีดสุด ร่างบางบิดเร้าอยู่ใต้ร่างสูงที่สวนสะโพกส่งจังหวะรักอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง ใบหน้าหวานเงยขึ้น ริมฝีปากบางเม้มแน่นสลับเผยออ้า ครางเสียงหวานเสียจนแหบพร่า มันช่วยไม่ได้จริงๆ เมื่อสัมผัสที่ได้รับจากเยซองมันผลักดันให้ร่างบางต้องแสดงออกเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้นขาขาวก็ยังกอดรัดสะโพกสอบแน่นพลางแอ่นร่างเข้าหาเพื่อกอบโกยความสุขทางกายให้ได้มากที่สุด เสียงครางดังขึ้นอีกเมื่อใกล้ถึงปลายทางที่ใฝ่ฝัน
                อึก อ่า เรียวอุคร่างสูงปลดปล่อยทุกหยาดหยดสู่กายของร่างบาง ช่องทางรักตอดรัดถี่รัวยิ่งทำให้ร่างสูงคลั่ง
                แฮ่ก แฮ่ก พี่เยซองหอบหายใจจนตัวโยน ใบหน้าหวานขึ้นสีจัด ดวงตาปรือฉ่ำน้ำเหม่อลอยราวกับอยู่ในฝันอันแสนหวาน ร่างสูงซบลงที่หน้าอกบาง จมูกโด่งซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาว
                พี่รักเรียวอุคนะครับเยซองเอ่ยเสียงซ่าน ร่างบางหลับตาลงเมื่อร่างสูงกดจูบมาที่ริมฝีปากสีเชอร์รี่
                ผมก็รักพี่นะครับ อ่ะ อื้มม”  ร่างสูงทำท่าจะเริ่มบทรักใหม่อีกรอบ เสียงครวญครางดังระงมทั้งคืนในห้องสี่เหลี่ยมนั่น เสียงหอบหายใจหนักแสดงถึงไฟราคะที่ยังไม่ดับลงง่ายๆของร่างสูง นอกจากจะใช้กายเล็กตรงหน้าดับมันเท่านั้น
                ร่างบางหัวสั่นคลอนรองรับแรงกระแทกจากการสวนกายของคนตรงหน้า ดวงตาหวานเหม่อลอย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบทรักร้อนแรงของคนที่เคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายเขา...เยซองถ้าอารมณ์ดีกลับมาจะเป็นอย่างนี้เสมอ มอบสัมผัสหนักหน่วงร้อนแรงเสียจนเรียวอุคแทบจะละลายคาที่ เสียงทุ้มต่ำพร่ำบอกคำรักหวานไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ถ้าวันไหนอารมณ์เสียกลับมาละก็ ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นที่ระบายอารมณ์ของร่างสูงได้ ไม่ว่าจะเป็นในครัวหรือบนรถก็ตาม แม้กระทั่งมุมลับตาคนในกองถ่ายถ้าบังเอิญเรียวอุคไปหาที่กองในช่วงที่เยซองหงุดหงิด แต่สัมผัสที่ได้รับ มันทำให้ร่างเล็กๆนี้เจ็บปวดจนแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ...
                นี่อาจเป็นด้านมืดของดารายอดนิยม คิมเยซอง ที่ไม่มีใครรู้ นอกจากคนตัวเล็กนี้เท่านั้น 

                ร่างบางรู้สึกตัวตื่นในเวลาเช้ามืด เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอกแกร่งที่ตนซุกหาไออุ่นทั้งคืน เยซองกำลังหลับสนิท เรียวอุคเคลื่อนตัวออกจากเตียงอย่างเบาที่สุด เพื่อให้อีกคนพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ก่อนรีบเดินเข้าห้องน้ำและลงมาจัดการเรื่องอาหารเช้า ไม่นานนัก ร่างสูงก็ตามลงมาพร้อมที่จะไปทำงาน
                พี่เยซอง กินนี่ก่อนนะครับเรียวอุคยิ้มหวาน วางจานอาหารที่มีขนมปังปิ้ง ไข่ดาวและไส้กรอก พร้อมกาแฟหอมกรุ่นวางข้างๆ แต่เยซองไม่ได้แสดงท่าทีสนใจอะไรมากนัก
                ทำไมเรียวอุคไม่ปลุกพี่ครับ เสียงทุ้มเข้มขึ้นหน่อยๆในเชิงตำหนิ ร่างบางได้แต่อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก เพราะอยากให้ร่างสูงได้พักผ่อนเต็มที่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเยซองมีงานตอนเช้า
                ผมขอโทษฮะร่างบางได้แต่ก้มหน้า ในใจนึกโทษตัวเองที่ทำให้เยซองอารมณ์ไม่ดีแต่เช้า
                ช่างมันเถอะ เที่ยงนี้ไปหาที่กองด้วย พี่ไปล่ะ”   หยิบขนมปังแผ่นมาคาบจากจานมาคาบไว้ในปาก ก่อนจะออกไปอย่างรีบร้อน        
                ร่างบางมองไปที่อาหารเช้ากับกาแฟที่เขาตื่นขึ้นมาเตรียมให้ตั้งแต่เช้ามืดด้วยความน้อยใจ มือเล็กดึงเก้าอี้ออกมาก่อนจะนั่งลงไป ฟุบลงกับโต๊ะแล้วถอนหายใจดัง พยายามจะทำตัวชินชากับความรู้สึกนี้เหมือนอีกคนเสียที แต่ดูเหมือนเรียวอุคนั้นจะเปราะบางเกินไปกับความรู้สึกหนักหน่วงนี่เสียแล้ว

                “อ้าว นี่เรียวอุค น้องชายเยซองนี่ เยซองกำลังอยู่ในฉากนะเดี๋ยวออกมาทีมงานละครคนหนึ่งที่จดจำเด็กหนุ่มที่มาหาเยซองบ่อยๆได้  โดยที่ดาราหนุ่มบอกว่าเป็นแค่น้องชายเอาของกินมาให้เท่านั้น
                ครับเรียวอุคนั่งรอห่างจากบริเวณที่ถ่ายทำเล็กน้อย ร่างบางชอบนั่งดูเยซองถ่ายทำละคร เพราะเขาคิดว่าเยซองตอนตั้งใจทำงานมีเสน่ห์ชะมัด
                เอาล่ะ คัท!! พักทานข้าวครับเสียงผู้กำกับดังขึ้น เยซองเดินออกมาจากฉากแล้วมาหาร่างบางทันที ยิ้มอ่อนโยนที่เยซองส่งมาทำให้ร่างบางโล่งใจไปได้ว่าวันนี้เยซองอารมณ์ดี
                พี่เยซอง ผมซื้อกาแฟมาฝากฮะยื่นแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นของโปรดร่างสูงมาให้ เยซองรับไปอย่างยินดี
                ขอบคุณนะครับ ตัวเล็กดูดกาแฟจากแก้วแต่ก็ยังส่งสายตาหวานมาให้
                วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ
                เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าเรียวอุคพี่หายเหนื่อยทันทีเลยร่างสูงลูบหัวคนตัวเล็กกว่าด้วยความเอ็นดู ทุกคำที่พวกเขาพูดพยายามพูดให้เบาที่สุด ไม่เช่นนั้นคนอื่นอาจสงสัยได้
                เย็นนี้พี่เยซองอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับร่างสูงทำหน้าคิดสักพัก
                อยากกินเรียวอุค จะได้ไหมครับ”  ร่างสูงกดยิ้มที่มุมปก ส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้อีกคนที่หน้าขึ้นสีเบาๆ
                ก ก็เมื่อคืนยังไม่พอหรอครับก้มหน้างุดด้วยความเขินอายที่ต้องพูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
                เป็นเรียวอุคน่ะ เท่าไรก็ไม่พอหรอกนะครับ รู้ไหม อยากจะดึงร่างตรงหน้ามากอดเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าเขาอยู่ในกองถ่ายที่มีคนเดินไปเดินมาอย่างนี้
                พ พี่เยซอง โลภมากกัดปากด้วยความเขิน ไม่รู้จะต่อว่าคนตรงหน้าอย่างไรดี

                หลังจากที่พักเที่ยงเสร็จแล้ว เรียวอุคนั่งดูร่างสูงถ่ายละครอยู่สักพักแล้วก็ตั้งใจว่าจะกลับ แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อมีใครอีกคนเดินเข้ามา
                นี่เรียวอุคใช่ไหมเสียงหนึ่งทักทายขึ้นมา ร่างบางหันไปมองด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะถึงบางอ้อ
                คยูฮยอนร่างบางยิ้มให้ เมื่อเจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันมานาน
                อื้ม ฉันเอง ฉันคิดถึงนายมากเลยล่ะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างร่างบาง ตอนนี้นายทำอะไรอยู่เนี่ย
                “อ อ๋อ เป็นครูสอนดนตรีน่ะร่างบางไม่บอกความจริงไป ไม่อย่างนั้นทั้งตัวเขาและเยซองจะเดือดร้อน แล้วนายล่ะ คยูฮยอน
                “เป็นนักข่าวน่ะยิ้มพลางชูกล้องที่แขวนคอขึ้นมา แต่ร่างบางนั้นใจกระตุกวูบ ดีจังเลย นายได้เป็นครูสอนดนตรีตามที่นายฝัน แล้วนี่นายมาทำอะไรหรอ มารอเยซองหรือเปล่า
                “อ เอ่อร่างบางลังเล มือไม้เกิดสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ช ใช่ พอดีพี่เยซองยืมของฉันไปน่ะ พี่เขามานัดรับคืนที่นี่ ก็เลยมา   
                “อ๋ออพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้ว แล้ว นายยังคบกับพี่เยซองอยู่หรือเปล่าเสียงออกเข้มหน่อยลดระดับเสียงลง ในใจนักข่าวหนุ่มเฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดจ่อ
                เอ่อ เปล่า เลิกนานแล้วเสียงหวานตอบไม่เต็มเสียงนัก เขาไม่ได้ตั้งใจโกหกเลย แต่ก็ต้องทำ เพื่อปกป้องคนรัก คยูฮยอนเผยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจบอกไม่ถูก
                งั้น วันนี้เราไปกินมื้อเย็นกันนะ ฉันเลี้ยงเอง ที่ร้านโปรดของนาย ดีไหมเรียวอุคร่างบางเงยหน้าขึ้นมาทันที
                เอ่อ ขอโทษนะคยู ตอนเย็นฉันมักจะยุ่งๆน่ะนักข่าวหนุ่มเสียดายนิดๆเมื่อได้ยินคำตอบ
                อ้าว คยูฮยอน นายมาทำอะไรที่นี่เสียงเข้มที่ร่างบางจำมันได้ดีเอ่ยขึ้น ดวงตาหวานเบิกกว้างเมื่อเห็นเยเซองยืนอยู่ข้างหลังคยูฮยอน นักข่าวหนุ่มลุกขึ้นอย่างดีใจ
                พ พี่เยซอง จำผมได้ด้วยหรอครับยิ้มกว้างเมื่อรุ่นพี่คนดังที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันจำเขาได้
                อื้มม ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะก็มึงเคยจีบเมียกู อยากจะพูดออกไปอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้พูด เยซองหันไปยิ้มให้ร่างบางก่อนจะเดินไปเฉียดนิดๆ เอ่ยน้ำเสียงเย็นยะเยือกให้ได้ยินแค่สองคน
                ไปเจอฉันที่ห้องน้ำ
                ร่างบางใจเต้นราวกับจะหลุดออกจากมาจากอก เขาทำให้เยซองไม่พอใจอีกแล้ว ร่างบางมองคนที่เดินไปแล้วด้วยสายตาเจ็บปวด
                ว้าว พี่เยซองจำเราได้ด้วยล่ะ ท่าทางสมกับฉายาเจ้าชายจริงๆ เออนี่ เรียวอุคฉันไปก่อนนะคำพูดใดๆของคยูฮยอนหรือของใครก็ตามในเวลานี้ไม่ได้เข้าถึงโสตประสาทของคนตัวเล็กเลย เรียวอุคสูดลมหายใจลึกก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำ
                .
                .
                เรียวอุคเดินเข้าไปที่ห้องน้ำชายอย่างกล้าๆกลัวๆ หันมองซ้ายทีขวาที พยายามสอดส่ายสายตาหาคนที่นัดเขามา
                อื้อออออร้องลั่นเมื่อมีมือหนึ่งมาปิดปากเขาและดึงตัวเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง ร่างบางเมื่อตั้งตัวได้จึงเงยหน้าขึ้นมองคนที่ลากเขาเข้ามา ก็พบว่าเป็นเยซองนั่นเอง ดวงตาหวานสั่นเครือเมื่อเห็นสายตาน่ากลัวที่ร่างสูงชอบทำเมื่อไม่พอใจ
                คยูฮยอนมันเป็นนักข่าว นายไม่ควรไปเสวนากับมันมากนะ เด็กดีมือหนาลูบหัวทุยเบาๆด้วยความอ่อนโยนแต่น้ำเสียงและสายตามันตรงกันข้ามเหลือเกิน ร่างบางตัวสั่นงันงก สบตาคนตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
                ผะ ผมไม่รู้ฮะ ว่าคยูเป็นนักข่าว ผมเพิ่งเจอเขาเองเสียงหวานสั่นเครือ พูดออกมาอย่างยากลำบาก เพราะพยายามกลั้นน้ำตาที่มันพาลจะไหลออกมาด้วย
                หึ งั้นก็ดี นายจะได้ประพฤติตัวได้อย่างเหมาะสมเมื่อเจอหน้ามัน เอ้อ อีกอย่างนะเรียวอุคเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาขบเม้มที่ซอกคอหอมกรุ่นฝากฝังรอยรักเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ ร่างบางขมวดคิ้วแน่นสกัดกั้นความหวาบหวามแปลกๆ พี่น่ะมันเป็นพวกหวงของซะด้วย ไม่ค่อยชอบหรอกนะ ที่เห็นเมียตัวเองไปจิ๊จ๊ะกับคนอื่น โดยเฉพาะกับมัน ที่เคยชอบนาย ร่างสูงเชยใบหน้าหวานขึ้นมาสบตา ก่อนบดขยี้จูบร้อนแรงลงไป ลิ้นหนาเกี่ยวพันกับลิ้นเรียว มือเล็กจิกแน่นเข้าที่บ่าแกร่ง ดูดดึงริมฝีปากบางอย่างเอาแต่ใจ ให้ริมฝีปากบางเจ่อบวมเมื่อผละออกมา
                นายก็รีบกลับบ้านไปได้แล้วนะ คนดี นิ้วโป้งเกลี่ยที่ริมฝีปากบางบวมเป่งของคนตรงหน้าเบาๆ ในใจก็นึกหมั่นเขี้ยวอยากจะบดขยี้จุมพิตซ้ำลงไปอีกรอบ
                “ครับ ครับร่างบางพยักหน้ารัวๆ แต่กว่าจะได้ออกไปก็โดนร่างสูงเอาเปรียบกับริมฝีปากและลำคอขาวอยู่นานเสียจนหอบแฮ่ก

                ร่างบางโล่งใจที่ได้ให้เบอร์ติดต่อกับคยูฮยอนไว้ ไม่งั้นเขาคงเดือดร้อนแน่ๆ ก็รู้กันดีว่าคยูฮยอนน่ะ ขี้ตื๊อแค่ไหน หลายวันมาแล้วที่เขาไม่ได้เจอกับคยูฮยอน และเยซองก็ห้ามไม่ให้ไปหาที่กองด้วย เพราะเกรงว่าจะเจอกับคยูฮยอน
                เรียวอุคเดินดูตามชั้นวางของในซุปเปอร์มาร์เกต ในมือถือลิสต์รายการที่จะต้องซื้อเข้าคอนโด รวมถึงอาหารเย็นในวันนี้ที่เยซองจะกลับเร็วกว่าปกติ...
                เรียวอุค เจอกันอีกแล้วร่างบางใจกระตุกวูบ เมื่อได้ยินเสียงเข้มทักทาย
                คยูฮยอนหันมาหน้าตาตื่น ก่อนจะรีบซ่อนมันไว้อย่างรวดเร็ว นายมาทำอะไรหรอ
                “มาซื้อของน่ะคยูฮยอนยิ้มกว้าง ร่างบางมองรถเข็นของนักข่าวหนุ่มที่เต็มไปด้วยอาหารกึ่งสำเร็จรูปมากมายประเภทที่ว่า ใส่ไมโครเวฟพร้อมรับประทาน
                นาย ยังกินของพวกนี้อยู่อีกหรอคยูฮยอนร่างสูงมองในรถเข็นตัวเอง ก่อนเงยหน้าขึ้นมา
                อื้มม คนโสดมันก็อย่างนี้แหล่ะพยักหน้าน้อยๆ ก็ รอคนทำอาหารเก่งๆมาดูแลอยู่น่ะทิ้งท้ายประโยคชวนคิดก่อนจะมองไปที่รถเข็นของเรียวอุค
                โหหห ว่าแต่นายซื้อของเยอะจังเลยนะ อยู่กี่คนหรอ”  
                เอ่อร่างบางลอบถอนหายใจ รูมเมทฉันเยอะน่ะ ฉันก็ทำหน้าที่ซื้อของเข้าหอ
                “นายนี่ยังเป็นแม่ศรีเรือนเหมือนเดิมเลยนะเรียวอุค คิคิร่างบางใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย
                บ้า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ จะได้เป็นแม่ศรีเรือน ฉันไปล่ะ พอดีรีบหาเหตุผลที่จะไปจากคยูฮยอนโดยเร็ว ไม่งั้น      เยซองกลับมาก่อนละยุ่งเลย ร่างบางรีบซื้อของโดยเร็ว เพราะต้องการหนีจากคยูฮยอนที่บังเอิญมาซื้อของที่ห้างเดียวกันอีก
                ร่างบางวางของไว้ที่เบาะหลัง และที่นั่งคนขับเพื่อกลับบ้าน สายตาหวานเหลือบไปเห็นคยูฮยอนที่เดินออกมาจากห้างในเวลาไล่เลี่ยกัน แถมยังจอดรถเยี้องกันด้วย มือเล็กบิดกุญแจเพื่อสตาร์รถ
                อ เอ๋รถยนต์คู่ใจเกิดอาการแปลกๆ สังเกตได้จากเสียงเครื่องยนต์ที่พอติดขึ้นมาก็ดับไปย่างรวดเร็ว ร่างบางลนลาน บิดกุญแจและเหยียบคันเร่งรัวๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนจะเสียงเครื่องยนต์จะดับเงียบไป ร่างบางเหลือบไปเห็นคยูฮยอนที่ชะเง้อมองมา เขาคงจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์แน่ๆ  คนตัวสูงรีบสาวเท้ามาอย่างรวดเร็ว
                ก๊อก ก๊อก ก๊อกคยูฮยอนเคาะกระจกรถยนต์ฝั่งคนขับ ร่างบางลดกระจกลงอย่างช่วยไม่ได้ อ้าว เป็นนายนี่เอง รถเสียหรอเรียวอุค ฉันได้ยินเสียงเครื่องยนต์แปลกๆน่ะ เลยเดินมาดู
                “ช ใช่
                “อื้มม เปิดกระโปรงรถหน่อยสิ เดี๋ยวฉันดูให้ร่างบางเอื้อมไปปลดล็อกกระโปรงหน้า แลเห็นร่างสูงเดินไปเช็คนู่น เปิดนี่ ก่อนจะเดินเข้ามาหา
                ฉันว่าท่อน้ำมันแตกน่ะ ต้องเอาไปให้อู่ซ่อมร่างบางถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เอารถทิ้งไว้นี่ก่อนละกันนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งนายเอง
                “ไม่เป็นไรหรอกคยู เดี๋ยวเรานั่งแท็กซี่กลับเรียวอุครีบปฏิเสธ ถ้าเกิดว่าคยูฮยอนไปส่งที่คอนโดแล้วเขาคนนั้นเห็นจะยุ่ง แต่นักข่าวหนุ่มไม่ได้ฟังเลย เดินไปหยิบของที่ร่างบางซื้อเอาไว้หลังรถและเดินไปที่รถตัวเองอย่างรวดเร็ว เรียวอุคถอนหายใจก่อนจะเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้

                โหหห นายพักที่นี่หรอ เรียวอุคคยูฮยอนตาโตเมื่อเห็นคอนโดหรูใจกลางเมืองที่เขาอาศัยอยู่กับเยซอง เป็นครูสอนดนตรีนี่รวยเนอะ
                “อื้มม ขอบใจที่มาส่งนะคยูฮยอนหันไปยิ้มให้อย่างขอบคุณ
                ไม่เป็นไร ฉันเต็มใจเสมอชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายและออกรถไปหลังจากที่เรียวอุคหยิบของไปหมดแล้ว

                ร่างบางรีบขึ้นมาบน พลางมองดูนาฬิกาที่เข็มสั้นเข้าใกล้เลข 6 ในใจภาวนาให้เยซองยังไม่กลับมา มือเล็กเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็เห็นรองเท้าของร่างสูงวางไว้อยู่แล้ว แต่ยังไม่เห็นเยซองเลย เรียวอุคจึงเอาของไปวางไว้ในห้องครัวก่อนจะเดินไปรอบๆห้องเพื่อหาคนที่กลับมาก่อน
                พี่เยซองครับเดินเรียกหาได้ไม่นานก็พบร่างสูงยืนสูบบุหรี่ราคาแพงอยู่ที่ระเบียง เรียวอุครีบสาวเท้าเข้าไปหา
                ทำไมกลับช้าจังร่างสูงถามหลังจากพ่นควันสีขาวออกมา สายตายังคงมองออกไปข้างนอก
                รถผมเสียน่ะครับร่างบางเห็นหน้านิ่งของร่างสูงแล้วใจเสีย ร่างบางออกไปยืนข้างร่างสูงที่กำลังขยี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยบุหรี่  ก่อนจะหันมาสบตานิ่งกับร่างเล็ก
                หรอ แล้วกลับมายังไงล่ะ” 
                “นั่งแท็กซี่มาครับใจดวงน้อยเต้นรัว พยายามซ่อนมือไม้ที่สั่นเทาเอาไว้ ร่างสูงเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอย่างเงียบๆ  มือหนาเทว้อดก้ามาร์ตินี่ใส่แก้วก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม
                งั้นผมไปทำอาหารเย็นก่อนนะครับเรียวอุคค่อยๆเดินออกไปแต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อร่างสูงปาแก้วน้ำใส่กำแพง
                เพล้ง!!!
                แก้วกระแทกกำแพงตกแตกกระจายต่อหน้า ก่อนที่สายตาจะแลเห็นร่างสูงพุ่งตรงมาตัวเอง
                โกหก!! คยูฮยอนมาส่งนาย ทำไมนายต้องโกหกพี่เรียวอุคมือหนาจับไหล่ร่างบางไว้แน่นก่อนจะเขย่าอย่างแรงด้วยความโกรธและสับสน
                ฮึก ฮึก พี่เยซอง ฮือออร่างบางน้ำตาร่วงลงมาด้วยความเจ็บปวด กลัว และน้อยใจจนเรียวอุคพูดอะไรไม่ออก
                หึ ทำไม อยากมีผัวใหม่หรือไง ห๊ะ!!” มือหนาบีบเข้าที่คางอย่างแรง อ้อ ฉันลืมไป นายคงอยากมีชีวิตใหม่ที่อิสระกว่านี้ใช่ไหม ฉันคงเลี้ยงเธอสบายไปใช่ไหมเรียวอุค!!!” ร่างบางส่ายหน้าด้วยความเจ็บปวดใจที่ได้ยินคำพูดคำร้ายจิตใจของคนรัก
                เปล่านะครับ ฮึก ฮึก เรียวอุคร้องไห้หนักกว่าเดิม แข้งขาอ่อนแรงจนยืนไม่อยู่ ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นอย่างน่าสงสาร ร่างสูงกระชากร่างบางให้ลุกขึ้นก่อนจะโยนไปที่เตียง หัวใจของคนตัวสูงกว่ากระตุกเล็กน้อยเมื่อแลสบดวงตาหวานที่ชอกช้ำไปด้วยน้ำตา
                หึ ฉันบอกไม่ให้นายติดต่อกับมันนะเรียวอุคร่างบางส่ายหน้าสะอื้นไห้หนักเมื่อคนใจร้ายจับข้อมือเล็กมัดกับหัวเตียงทั้งสองข้างด้วยเนคไท แต่นี่นายพามันมาถึงหน้ารังรักของเรานี่มันหมายความว่าไงครับมือหนาลูบไปที่แก้มใสเบาๆก่อนจะฉีกกระชากอาภรณ์คนตัวเล็กออกจนเผยให้เห็นเรือนร่างสวยสีน้ำผึ้งที่สั่นระริกด้วยความกลัว
                พี่เยซอง อย่า อึก ประจบจูบลงที่มาริมฝีปากบางอย่างรุนแรง บดขยี้สัมผัสจาบจ้วงเอาแต่ใจเหมือนเคยจนคนตัวเล็กรู้สึกได้ถึงรสเค็มปร่าของคาวเลือดที่ปากตัวเอง มือหนาแยกเรียวขาขาวที่สั่นน้อยๆออกจากกัน ก่อนจะแทรกกายเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนโดยไม่มีการเบิกทางใดๆทั้งสิ้น
                ร่างบางหวีดร้องด้วยความเจ็บปวด มือที่ถูกมัดเกร็งแน่นจนรู้สึกเจ็บ ร่างสูงพยายามแทรกกายเข้าจนสุด แต่ด้วยช่องทางที่รัดแน่นทำการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างยากลำบาก ร่างสูงกระแทกเข้าไปอีกจนร่างบางรู้สึกได้ถึงช่องทางที่ฉีกขาด น้ำตาไหลลงมาไม่หยุดจากความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสและความน้อยใจต่อคนตรงหน้า
                พี่ครับ ฮึก ขอร้อง ฮืออออใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ร่างสูงสลัดความใจอ่อนออกไปก่อนจะสวนกายเข้าไปจนสุดและกระแทกกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง ร่างบางทั้งเจ็บและจุกไปทั่วท้องน้อยจนพูดไม่ออก
                หึ นายนี่รัดพี่แน่นตลอดเลยจริงๆ อึก อ่า ร่างสูงยังคงสวนกายเข้าไปไม่ยั้ง ความอึดอัดในกายเร่งเร้าให้จังหวะรักเร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางซบใบหน้าลงกับหมอนเพื่อระบายความเจ็บปวด
                อึก พี่ ผมเจ็บ อ๊ะ พอได้แล้ว ขาเรียวสวยถูกจับให้มาโอบล้อมเอวสอบที่ยังคงเคลื่อนไหวเข้าออก ร่างบางหัวสั่นหัวคลอนจากแรงกระแทกของคนตัวสูง ร่างที่อ่อนปวกเปียกถูกดึงรั้งเข้ามาให้แนบชิดกายสูงมากขึ้นอีก
                อึก อ่ามีเพียงแต่เสียงครางตามปฏิกิริยาร่างกายเท่านั้นที่บอกว่าร่างบางยังไม่สลบคาเตียง ดวงตาหวานปิดลงอย่างอ่อนล้า สติเริ่มไม่อยู่กับตัว ไม่นานก็รู้สึกถึงความอุ่นวาบในช่องทางร้อนของตนก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง...

                เยซองตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืด หันไปมองคนในอ้อมกอดที่ยังคงหลับใหล ปกติเรียวอุคจะตื่นก่อนเขาเสมอ ร่างเล็กๆนั่นเต็มไปด้วยรอยฝากรักรุนแรงจากเขามากมาย ตามเนื้อตัวมีคราบคาวจากการปลดปล่อยของคนทั้งคู่ ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา มือหนาเอื้อมไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าหวานออกเบาๆ นึกสงสารคนตัวเล็กอย่างจับใจ ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่เข้าใจถึงอารมณ์โกรธรุนแรงของตัวเอง
ก็รู้อยู่ว่าเรียวอุคบอบบางมาแต่ไหนแต่ไร ทำไมกุต้องทำแบบนี้ด้วยวะ
                ร่างสูงรำพึงในใจก่อนจะกอดคนตัวเล็กเอาไว้แนบอก กดจูบเบาๆไปที่หัวทุยราวกับจะปลอมประโลม สักพักจึงผละออกจากเตียงเพื่อไปทำงาน
ตอนเย็น พี่จะซื้อของที่เรียวอุคชอบมาฝากนะครับ พี่ขอโทษด้วยมือหนาลูบไปที่หัวทุยเบาๆก่อนออกไปทำงาน พูดอะไรไปตอนนี้เรียวอุคก็ยังไม่ได้ยิน เพราะหมดเรี่ยวแรงจากการลงโทษของคนรักทั้งคืน

                แสงแดดร้อนที่ส่องหน้าทำให้ร่างบางรู้สึกตัว เปลือกตาสีมุกค่อยๆขยับก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ ขยับเขยื้อนกายเล็กอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดที่ช่องทางหลังแล่นริ้วไปทั่วร่างจนต้องล้มตัวนอนลงมาอีกครั้ง น้ำตาพาลจะไหลลงมาอีกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ร่างสูงโหมกระหน่ำอารมณ์ใส่กายเล็กๆนี่จนสลบไป และเมื่อร่างบางสะดุ้งตื่นมากลางดึก ร่างสูงก็ยังเอาแต่ใจกับกายเล็กไม่เลิก เรียวอุคซบใบหน้าลงกับหมอน ก่อนจะที่น้ำตาจะไหลลงมาอีก ถ้าเยซองอยู่ในอารมณ์โกรธแล้วล่ะก็  ไม่ว่าเหตุผลใดๆก็จะไม่รับฟังทั้งนั้น เอาแต่ระบายอารมณ์ใส่กายบอบบางนี้เสียจนแทบจะแหลกคามือ
                ร่างบางกัดฟันฝืนความเจ็บปวดที่ไล่ไปตามกระดูกสันหลัง ลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินอย่างยากลำบากไปที่ห้องน้ำ เพื่อชำระคราบความใคร่ที่หลงเหลืออยู่ตามตัว
                เมื่อร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาก็แลไปเห็นรูปถ่ายสมัยมัธยมที่พวกเขาถ่ายด้วยกัน เมื่อตอนที่เยซองยังเป็นคนที่อ่อนโยน อบอุ่นและมีเหตุผลกว่านี้มาก กลับเป็นตัวเองซะอีก ที่เอาแต่ใจจนทำให้เยซองปวดหัวบ่อยๆ ร่างบางน้ำตาไหลออกมาอีกก่อนจะหยิบกรอบรูปขึ้นมาและขว้างไปที่พื้น
                เพล้ง!!
                ฮือออ พี่เยซองไม่รักผมแล้วใช่ไหม ถึงได้ใจร้ายกับผมอย่างนี้ร่างบางคร่ำครวญในขณะที่ขาเรียวเล็กทรุดลงอย่างหมดแรง กรอบรูปตกกระแทกกับพื้นทำให้กระจกหน้ารูปแตกกระจาย กรอบไม้พังเคลื่อนออกจากกันเล็กน้อย
                ร่างบางพยายามสูดลมหายใจลึก สกัดกั้นก้อนสะอื้นที่มาจุกที่คอ พร้อมกับความคิดบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัว
                ในเมื่อพี่เยซองไม่รักผม ผมจะไม่อยู่กวนใจพี่อีกแล้ว ผมจะไปจากพี่เยซองครับ




                “เรียวอุค พี่กลับมาแล้วครับในตอนเย็นที่ร่างสูงคิดว่าจะกลับมาคืนดีกับคนตัวเล็ก แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับความว่างเปล่า ทั้งที่ปกติเรียวอุคน่าจะอยู่หน้าทีวีหรือไม่ก็ในครัว เยซองสาวเท้าเร็วๆ เพื่อหาคนตัวเล็กที่เขาคิดถึงทั้งวัน
                เรียวอุค เรียวอุคอยู่ไหนครับเดินเข้าออกห้องแล้วห้องเล่า แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างบาง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน ก็พบกับสภาพเตียงยับยู่ยี่และเสื้อผ้าที่กระจายเกลื่อนพื้นเช่นเดิม ไม่ได้มีการเก็บกวาดแต่อย่างใด สายตาคมเหลือบมองเห็นกรอบรูปที่ตกกระจายที่พื้นทำให้หัวใจเริ่มเต้นรัวกระหน่ำ
                เรียวอุค”  ร่างสูงหันไปมองตู้เสื้อผ้าความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวก่อนจะรีบลุกขึ้นและวิ่งไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า
                ปัดโธ่เว้ยยย!!!” ร่างสูงแผดเสียงอย่างโมโห เมื่อเสื้อผ้ารวมถึงกระเป๋าเดินทางของคนตัวเล็กหายไป เยซองเดินไปเดินมาในห้องอย่างร้อนใจ ก่อนจะนั่งลงกับเตียง
                คิดสิ คิด เรียวอุคจะไปที่ไหนร่างสูงพึมพำ พยายามรวบรวมสติเค้นออกมา
ที่ที่เรียวอุคน่าจะไปได้ดวงตาคมเบิกกว้าง เมื่อภาพของสถานที่นั้นแล่นเข้ามาในหัว มือหนาหยิบมือถือขึ้นมาอย่างร้อนรน
ฮัลโหล ดงเฮ พรุ่งนี้ยกเลิกตารางงานทั้งหมดให้ฉันด้วยนะ
ห่ะ แกพูดบ้าอะไรเนี่ยเยซอง ฉันจะทำอย่างนั้นได้ยังไงเสียงคนปลายสายตอบกลับมาอย่างงงๆ
นายต้องทำดงเฮ ฉันจะไปตามหาเรียวอุค
เรอะ แล้วจะกลับเมื่อไร
ไม่รู้ รู้เมื่อไรแล้วจะบอก”  ร่างสูงกดตัดสาย ก่อนจะลุกจากเตียงอย่างรดเร็ว
เฮ้ย ไอ่เยซองงงงง มันเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย โอ๊ยยยยย แล้วฉันจะทำยังไงดีๆๆ ดงเฮเอามือกุมขมับอย่างปวดหัว เมื่อเยซองโยนปัญหาใหญ่มาไว้ตรงหน้า

ขอให้ใช่เถอะนะเรียวอุค ขอให้นายอยู่นั่นทีเถอะนะ”  ร่างสูงเหยียบคันเร่งรถยนต์หรูไปให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด

ระยะเวลา 4 ชั่วโมงจากกรุงโซลทำให้ร่างสูงอ่อนล้าเล็กน้อย แต่เมื่อเขาเห็นจุดหมายปลายทางก็พลันหายเหนื่อย บ้านหลังนั้น บ้านหลังที่เขามาบ่อยๆตั้งแต่สมัยเด็ก เพื่อมาเล่นกับเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่อยู่ในใจเขาเสมอมา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
                เอ๊ะ ใครมากันนะ ดึกดื่นป่านนี้ละหญิงวัยกลางคนเจ้าของบ้านขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ซองมิน ไปดูสิลูก
                “ครับซองมินที่เดินไปเปิดประตูเบิกตาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคนที่มาเคาะประตูบ้าน เยซอง
                “ซองมินกำลังจะเอ่ยทักทาย แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อมือบางหวดมาที่ใบหน้าหล่ออย่างแรง
                แกจะมาที่นี่ทำไมห่ะ!!!” ซองมินแผดเสียงอย่างโมโห ยังทำเรียวอุคเจ็บไม่พอหรือไง ออกไปจากบ้านฉัน!!”
                ซองมิน ใครน่ะลูกหญิงเจ้าของบ้านลุกขึ้นมาที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงบุตรชายของตัวเองโวยวาย
                เยซองครับแม่
                “อ้าว เยซองเหรอแม่โผล่หน้ามาที่ประตู
                สวัสดีครับแม่ร่างสูงโค้งคำนับเป็นเชิงทักทาย
                เข้ามาก่อนสิเยซอง แม่ไม่เจอตั้งนานแหน่ะ”  ซองมินขมวดคิ้วเมื่อแม่ของตนพาเยซองเข้ามาในบ้าน
                แม่ครับ จะไปดีกับมันทำไม มันทำให้เรียวอุคเสียใจนะครับซองมินส่งสายตาไม่หวังดีไปให้เยซอง มันน่ะ พอเข้าวงการไปได้ก็หลงชื่อเสียง เป็นคนเลวไปแล้วล่ะครับแม่
                “ใช่ ด่าฉันเลย ฉันน่ะมันเป็นคนเลวไปแล้วเยซองยิ้มเยาะตัวเอง
                เอาน่าทั้งคู่ พอเถอะหญิงมีอายุยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามปรามคนเลือดร้อนทั้งสองคน เยซอง คืนนี้ดึกแล้วก็ค้างที่นี่ล่ะกันนะ ยังพอมีห้องอยู่บ้าง”  
                “ขอบคุณครับแม่เยซองก้มหัวเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนจะเดินออกไปที่รถเพื่อหยิบของเล็กน้อย
                แม่ครับ ทำไมล่ะครับ มันทำให้น้องเราเสียใจนะครับซองมินเอ่ยถามเมื่อเยซองเดินออกไปแล้ว
                มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะซองมิน ให้เขาเคลียร์กันเองเถอะแม่ถอนหายใจเบาๆ



                นี่ซองมิน นายรู้ไหมว่าเรียวอุคอยู่ไหน ทำไมฉันไม่เห็นเขาเลยเยซองถามเมื่อเขายังไม่เห็นแม้เงาของคนตัวเล็ก ซองมินกำลังเดินนำเขาไปที่ห้องพักก็หันมาตอบ
                เหอะ กลับมาก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในเรือนเล็กท้ายสวน ถามอะไรก็ไม่ตอบ จนฉันไปเค้นเองเนี่ยแหล่ะคนตัวเล็กออกจะอวบนิดๆหันมามองร่างสูงด้วยหางตา ก่อนจะไขกุญแจเข้าไปในห้องหนึ่งและหลีกทางให้คนตัวสูงเข้าไป
                ห้องนาย
                ขอบใจมากร่างสูงหันมายิ้มให้น้อยๆ ฉันขอไปหาเรียวอุคหน่อยได้ไหม
                “นายอย่าเพิ่งไปกวนน้องฉันเลย น้องฉันยังหนีจากนายมาไม่ทันจะวันนึงด้วยซ้ำซองมินกอดอก นายก็ตามมาไวเหลือเกินนะ
                “อืมเยซองพยักหน้าน้อยๆอย่างเข้าใจ แต่เขาก็อดห่วงคนตัวเล็กไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็โล่งใจว่า เรียวอุคอยู่ที่นี่อย่างที่เขาคิดจริงๆ

                เช้าวันต่อมาที่แสนจะสดใส ร่างสูงนอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกได้ถึงแสงแดดร้อนแรงที่แยงตาจนต้องลืมตาขึ้นมา       เยซองขยี้ตาก่อนจะเอื้อมมือไปดูเวลาที่มือถือ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีใครบางคนเคาะที่ประตู
                ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!!!
                ไอ่เยซอง ตื่น จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนวะ!!!” เป็นซองมินนี่เองที่มาแผดเสียงแถมยังเคาะประตูเสียงดังแต่เช้า
                เออๆเยซองค่อยๆขยับจากที่นอน ด้วยความที่เขาต้องตื่นเช้าเพื่อไปกองถ่ายตลอด ก็เลยทำให้ความอ่อนล้าสะสมในร่างกาย พอได้เจอที่นอนนุ่มๆ บรรยากาศสบายๆแบบที่ไม่มีในเมืองใหญ่จึงนอนเพลินจนตื่นสายอย่างนี้

                ร่างสูงเมื่อกินข้าวเช้าเสร็จก็ไม่ได้ไปหาร่างบางทันที แต่ช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆเหมือนเมื่อก่อนที่เขาชอบมาที่นี่บ่อยๆ
                เยซองไม่ต้องทำก็ได้ เยซองเป็นแขกนะลูกแม่ของเรียวอุคเดินไปหาเขาเมื่อเยซองกำลังรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน
                “ไม่เป็นไรครับ ผมเคยชินไปซะแล้วเยซองหันมายิ้มให้
                แล้วเราไม่รีบไปหาเรียวอุคหรอ
                “ครับ ผมอยากจะให้เรียวอุคได้พักผ่อนซะหน่อยเยซองลอบถอนหายใจเบาๆ แล้วผมจะเอามื้อเที่ยงไปให้เขาเองครับ
                “เข้าใจง้อนะเราน่ะแม่หัวเราะเบาๆ  เยซองยิ้มกับคำพูดนั้นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเรียวอุคจะให้อภัยเขาหรือเปล่า
               
                ร่างสูงเดินถือถาดอาหารเข้าไปในสวนที่ทำเป็นทางเดินมีต้นไม้สองข้างทางไปสู่บ้านหลังน้อยท้ายสวน เยซองมองมันอย่างคิดถึงก่อนจะเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
                ใครน่ะเสียงหวานที่คุ้นเคยตอบกลับมา เยซองอมยิ้มน้อยๆยืนนิ่งเงียบ รอให้ร่างบางมาเปิดประตู พี่ซองมินหรอร่างบางเปิดประตูออกมาก็ต้องชะงักพร้อมมองด้วยสายตาตกตะลึงเมื่อเห็นว่าใครมาเคาะประตู
                พี่เยซอง”  เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา หัวใจเต้นกระหน่ำเมื่อร่างสูงส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ ร่างบางปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำไม่ได้ดังที่หวังเมื่อเยซองเอาเท้ามากั้นประตูเอาไว้
                ให้พี่เข้าไปเถอะนะ คนดี เยซองส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ เรียวอุคหันหน้าไปอีกทางราวกับว่าเกลียดจนไม่อยากจะเห็นหน้าอีก แต่ที่จริงแล้วเขากลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน
                พี่กลับไปเถอะครับ พี่จะมาตามผมทำไม พี่งานยุ่งทุกวันไม่ใช่หรอครับ
                พี่ไม่สนเรียวอุคหันขวับกลับมา มือที่จับประตูไว้เริ่มอ่อน ดวงตาหวานแลสบกับสายตาจริงจังของเยซอง พี่รักเรียวอุคนะครับ ถ้าพี่ไม่มีเรียวอุค พี่อยู่ไม่ได้หรอก
                “อยู่ไม่ได้ เพราะพี่รักผมหรือเพราะพี่ไม่มีที่ระบายอารมณ์กันแน่ครับร่างบางตัดสินใจพูดออกมา เขาไม่สามารถทนกับความรู้สึกหนักหน่วงนี้ได้อีกแล้ว เยซองชะงักไปเล็กน้อย เพราะร่างบางไม่ค่อยพูดแสดงความรู้สึกของตัวเองแบบนี้เลย ก่อนจะยิ้มน้อยๆ
                ถ้าพี่ไม่รักเรียวอุค พี่ไม่มาหรอกครับดวงตาหวานเบิกกว้าง ก่อนจะเดินผละออกจากประตูไปนั่งที่โต๊ะที่มีกระดาษโน๊ตเพลงเต็มไปหมด
                เยซองเดินเข้ามาในบ้านหลังเล็กๆนี้ ตอนเด็กเขาเข้ามาเล่นที่นี่กับเรียวอุคบ่อยๆ บ้านหลังเล็กที่ทาสีขาวทั้งหลัง ตัดกับสีดำของเปียโนที่ตั้งอยู่กลางบ้าน ที่นี่พ่อของร่างบางสร้างเอาไว้ให้มีพร้อมทุกอย่างเหมือนบ้านหลังหนึ่ง เพื่อเป็นสถานที่ผลิตงานศิลปะทางดนตรีชั้นยอดของพ่อเรียวอุคที่เป็นนักดนตรี
                เรียวอุคทานมื้อเที่ยงนะครับเยซองวางถาดอาหารไว้ที่โต๊ะกินข้าว เดี๋ยวจะหิวนะครับตัวเล็กเยซองเดินไปหาร่างบางที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มือหนาจับเข้าที่ไหล่บางนั่นทำให้เรียวอุคสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะเอามือตัวเองปัดออกอย่างไม่ใยดี
                พี่อย่ามายุ่งกับผมเรียวอุคหันมาพูดใส่หน้าเยซอง ก่อนจะเดินไป แต่แล้วร่างสูงก็ไวกว่า ดึงคนตัวเล็กให้มาอยู่ในอ้อมกอดตัวเองอย่างรวดเร็ว
                ได้โปรด เรียวอุค อย่าโกรธอย่าเกลียดพี่เลย พี่มันหลงผิดไปแล้วร่างบางดิ้นสุดแรงจนหลุดออกมาได้ ก่อนหวดมือบางไปที่ใบหน้าของคนตัวสูงกว่า
                เพี้ย!!
                ไปให้พ้น ไอ้คนเห็นแก่ตัว พี่ไม่เคยฟังผมเลย เอาแต่ได้ ใจร้ายที่สุด!!” น้ำตาไหลพรากลงมาอีกครั้ง ร่างสูงยืนนิ่งกับคำด่าทอที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากคนตรงหน้า เยซองยิ้มบางเบาก่อนจะเดินออกจากบ้านหลังนั้นไป...

                เป็นไงล่ะ ไปหาเรียวอุคมาหรือยังซองมินถามเมื่อเห็นเยซองกำลังนั่งดูทีวีอยู่
                อืมม ไปหามาแล้วเยซองตอบนิ่งๆ ถึงแม้ตาเขาจะอยู่กับทีวีแต่ใจเขาไม่ได้สนใจกับเนื้อหาที่ฉายเลย
                ฉันจะบอกอะไรให้นะ เยซองเยซองหันไปมองคนที่นั่งลงข้างๆ เมื่อเช้า ฉันจะไปถีบแกลงจากเตียงตั้งแต่ 7 โมงแล้ว แต่มีคนมาห้ามฉันไว้ บอกว่าให้นายนอนต่อ นานๆทีนายจะได้ตื่นสาย”  เยซองรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ
                ใครห้ามนาย เรียวอุคใช่ไหมตาคมเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น
                แม่ฉันเอง
                อ๋อ หรอซองมินยิ้มขำกับท่าทางของอีกคนที่เปลี่ยนไป
                ล้อเล่น แม่ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าปกตินายตื่นกี่โมงซองมินปล่อยขำก๊ากออกมาด้วยความสนุกที่แกล้งคน ก็คนที่นายมาตามนั่นแหล่ะ
                “นายยังชั่วไม่เปลี่ยนเลยซองมิน แต่ขอบใจมาก
                “ฉันรู้นะว่าน้องชายฉันเศร้ามาก และคนที่จะทำให้เรียวอุคหายเศร้าได้มีคนเดียวคือ นายเยซองรับฟังนิ่ง
                เมื่อเที่ยงฉันโดนน้องนายตบมาไม่ได้มีเจตนาจะฟ้องแต่อย่างใด เพียงแต่เล่าให้ฟังตามประสาคนที่รู้จักกันมานานอย่างซองมิน
                สมน้ำหน้าซองมินยิ้มเยาะ ก่อนจะลุกออกไป เยซองถอนหายใจยาว เขาไม่หวังจะให้เรียวอุคหายโกรธเขาเร็วนัก เพราะสิ่งที่เขาทำกับเรียวอุคมันสมควรแล้วที่ร่างบางเลือกที่จะไปจากเขา...


                เรียวอุคครับเยซองมาอยู่ที่นี่ 3 วันแล้ว ดงเฮก็โทรตามจิกเขายิกๆ ก็เพราะว่าคนตัวเล็กนี้ยังไม่หายโกรธเขาเสียที แต่ร่างสูงก็ไม่ละความพยายาม ยังคงยกอาหารไปให้คนตัวเล็ก เยซองแว่วเสียงเปียโนจากข้างใน เขาจึงเปิดประตูเข้าไปเอง
                เรียวอุคครับ ทานมื้อเย็นก่อนนะครับเยซองถือถาดอาหารไปวางที่โต๊ะตามปกติ และจะเดินออกไป เพราะถึงไม่เดินเรียวอุคก็ไล่เขาเองอยู่ดี...
                เดี๋ยวครับ พี่เยซองเสียงเรียกของคนตัวเล็กทำให้เขามีความหวังขึ้นมาบ้าง ร่างสูงหันไปจะคุยกับเรียวอุค แต่ก็ต้องชะงักกับถาดอาหารเปล่าตรงหน้า
                พี่ลืมเก็บถาดมื้อเที่ยงน่ะครับรับถาดมาจากมือเล็ก ก่อนจะเห็นร่างบางหันหลังเดินไปที่เปียโนอีกครั้ง
                เรียวอุค เรียวอุค ได้โปรด!! พี่รักเรียวอุคนะครับร่างสูงรีบวิ่งไปกอดคนตัวเล็กกว่าไว้แน่น ร่างบางตาเบิกกว้าง ทำอะไรไม่ถูก
                พี่เยซอง
                “พี่สัญญา พี่จะไม่เห็นเราเป็นที่ระบายอารมณ์อีก พี่จะดูแลเราอย่างดี พี่จะทำทุกอย่างให้เรามีความสุข เพราะฉะนั้น ได้โปรด กลับไปกับพี่เถอะนะครับ
                “….”
                เรียวอุคนิ่งเงียบไป เยซองยิ้มเยาะให้กับตัวเองอย่างสมเพช ไม่มีทางสินะ เขาคงสูญเสียเรียวอุคไปแล้ว
                พี่สัญญาแล้วนะครับร่างสูงประหลาดใจกับเสียงหวานเอ่ยเบาๆ
                ครับ พี่สัญญา
                ก็ได้ ผมก็รักพี่นะครับร่างบางกอดคนตัวสูงกว่าแน่น ใบหน้าซบลงกับอกแกร่ง เยซองเหมือนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เหมือนหัวใจเขาได้กลับมาเต้นอีกครั้ง   เมื่อได้ยินเสียงหวานเอื้อนเอ่ยประโยคที่เขาอยากได้ยิน
                พี่รักเรียวอุคนะครับ คนดีของพี่ร่างสูงกดจูบไปที่หัวทุย มือหนาเลื่อนไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกงยีนส์ นี่ครับ พี่ซื้อมาให้เรียวอุค
                ร่างบางดีใจจนหุบยิ้มไว้ไม่อยู่ เมื่อร่างสูงค่อยๆใส่สร้อยรูปตัว Y ลงไปบนคอระหงส์ ก่อนคนตัวเล็กจะมองมันอย่างชอบใจ
                เหมาะกับเรียวอุคที่สุดเลยมือหนาลูบเบาๆไปที่แก้มใส ร่างบางยิ้มเขินแล้วหยิบสร้อยจากคอมาชื่นชม
                ขอบคุณครับ
                ร่างสูงยิ้มกว้าง ขยับใบหน้าไปให้หน้าผากของทั้งคู่แนบชิดกันเบาๆ ทั้งคู่หลับตาพริ้ม ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ถึงแม้ร่างสูงจะมีชื่อเสียงโด่งดัง มีเงินทองรวยล้นฟ้า แต่ก็แค่นี้จริงๆ เยซองต้องการแค่นี้จริงๆ

                รักนะครับ เรียวอุคของพี่” 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น