[SF YeWook] Reflection



Reflection


              ตู้มมมมมมมมมมมม!!!
                ภาพของนกเหล็กที่โดนกระแสลมแรงทิศทางไม่เหมาะกับการบินพัด เครื่องบินเอียงเสียหลักก่อนจะร่อนตกกระแทกพื้นอย่างแรงจนเกิดระเบิดดังสนั่นไปหมดราวกับในภาพยนตร์แอ็คชั่น ไฟลุกไหม้ท่วมเครื่องบินไปทั้งลำอย่างรวดเร็ว เรียวอุคสติแตกกระเจิงไปกับภาพที่เห็น
                คุณอา!! ไม่ๆๆๆ!!! ฮือออออกรีดร้องออกมาอย่างไม่อายใคร น้ำตาแทบจะไหลออกมาเป็นสายเลือด ก่อนจะรู้สึกถึงแรงกระแทกของระเบิดที่อัดจนกระจกสนามบินแตก ร่างบอบบางกระเด็นไปกองกับพื้นพร้อมๆกับใครหลายคนที่มุงดูอยู่ที่กระจกเช่นกัน


            คุณอา!!”
                เรียวอุคสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เหงื่อเกาะพราวไปทั่วใบหน้าหวาน หอบหายใจเบาๆ มือบางเลื่อนมากุมขมับตัวเอง
                ฝันอีกแล้วหรอเอ่ยอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อฝันถึงวันที่เขาไปส่งคุณอาที่สนามบิน ภาพที่เครื่องบินตกกระแทกพื้นแล้วระเบิดต่อหน้า เรียวอุคไม่มีทางลืมมันแน่นอน
                อุบัติเหตุที่พรากเอาชีวิตของคุณอาไปต่อหน้าต่อตา
                การจากไปอย่างกะทันหันของคุณอาหนุ่ม ทำให้ในวันนั้นร่างบางกลับบ้านอย่างอ่อนระโหยโรยแรงผิดปกติจนคุณพ่อคุณแม่ต้องถาม ทำเอาที่บ้านเศร้าโศกเสียใจกันมากมาย ร่างบางร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาให้ร้องต่อ ได้แต่ยืนเหม่อลอยอย่างคนไร้วิญญาณ ในงานพิธีศพของคุณอา
                เรื่องราวต่างๆได้ผ่านมา 2 ปีแล้ว คิมเรียวอุค กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัย ร่างบางมาเรียนต่อที่อังกฤษในสาขาบริหารธุรกิจตามที่ตั้งใจไว้
                นี่เพิ่งตีสี่เองร่างบางหันไปดูนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ฝันร้ายนั่นปลุกเขาขึ้นมาอีกแล้ว เรียวอุคลุกออกจากเตียงไปที่ห้องน้ำ หมายจะไปจะล้างหน้าล้างตาและอ่านหนังสือสักหน่อย


                “Hi Ryeowook” บรรยากาศจอแจเหมือนอย่างเคยในห้องเลคเชอร์ขนาดใหญ่ยามเช้า ทำเอาเรียวอุคเวียนหัว ร่างบางหันไปมองเพื่อนร่วมชั้นชาวจีนที่มานั่งข้างๆ
                “Good morning Henry” ร่างบางเอ่ยทักเบาๆ พร้อมกับส่งยิ้มเบาบางไปให้อีกคนที่วางกระเป๋าลงและหยิบตำราขึ้นมาพร้อมเรียน
                “You look pale. What’s the matter?”  เฮนรี่เอ่ยทักเมื่อสังเกตว่าเรียวอุคหน้าซีดกว่าทุกวัน
                “Nothing I’m OK” ร่างบางยิ้มกลบเกลื่อน นึกได้ว่าคงจะเป็นฝันร้ายที่ติดต่อกันมาหลายคืนนั่นแหล่ะ ที่ปลุกให้เขาสะดุ้งกลางดึกมาอ่านหนังสือยันเช้าเหมือนวันนี้
                บรรยากาศที่จอแจเริ่มเงียบลง นักศึกษาวิ่งกลับมาที่โต๊ะตัวเอง หลายๆคนรีบวิ่งเข้าห้องมาเมื่อเห็นว่าอาจารย์ผู้สอนกำลังจะขึ้นบนเวที
                “Ohhh boring class again” เสียงบ่นของเฮนรี่ข้างๆไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทของเรียวอุคเลย สายตาของร่างบางจับจ้องไปที่อาจารย์ผู้สอนแปลกหน้าทันทีนับตั้งแต่อาจารย์เดินเข้าห้องมา ใบหน้าหล่อที่ดูคุ้นตาถูกซ่อนอยู่ภายใต้กรอบแว่นสีดำ ร่างสูงขึ้นเวทีไปที่ไมโครโฟน ในมือถือรีโมทเปิดสไลด์การสอนขึ้นมา
                “Good morning everyone I’m Assistant Professor Dr. Jarome Kim I’m your new lecturer. Today let’s start with…” 
                เรียวอุคแทบหยุดหายใจไปเลย เมื่อเสียงทุ้มนุ่มแนะนำตัวว่าเป็นอาจารย์ใหม่ ถึงแม้กระนั้นก็ตาม นอกจากหน้าตาแล้ว เสียงยังเหมือนกันอย่างน่าตกใจ
                เหมือนคุณอาเยซองที่เรียวอุคเฝ้าคิดถึงตลอดมา
                “Wow! he’s unbelievable hot!! isn’t he?” เสียงแหลมของเฮนรี่กระซิบที่ข้างหู เรียวอุคนิ่งอยู่ในภวังค์ไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเชิงเห็นด้วย ตลอดทั้งคาบเรียวอุคแทบจะไม่ได้ใส่ใจกับเนื้อหาที่อาจารย์คนใหม่สอน กลับมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้น  บางทีที่อาจารย์หนุ่มสบตามาร่างบางก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้นอย่างรุนแรงทุกครั้ง
                “Class is over thankyou” ร่างสูงวางไมค์และเดินลงจากเวทีไปอย่างรวดเร็ว ร่างบางแทบจะลุกตามไปแต่ก็ต้องยั้งใจเอาไว้ก่อน ได้แต่เก็บความสงสัยและคำถามมากมายเอาไว้ในใจ
                “You’re always look at him , why? , do you like him Wookie? kekeke” เฮนรี่เอ่ยแซวเมื่อสังเกตว่าเพื่อนของตนมองอาจารย์รูปหล่ออย่างไม่วางตา
                “Nope, I think he looks familiar.” ร่างบางส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะให้เหตุผล
                “Ohh well, don’t think too much.” เฮนรี่เอ่ยเมื่อเห็นร่างบางทำหน้าเคร่งเครียด “Siwon is going to have a party tonight, wanna join?”
                “Party?” จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ไปปาร์ตี้นานแล้วนี่นา ตั้งแต่คุณอาจากไป เหมือนชีวิตเขาไม่มีสิ่งที่น่ารื่นรมย์อะไรอีกแล้ว



                “Heyyy girls I’m so glad you guys can come”  ซีวอนเข้าไปกอดเรียวอุคและเฮนรี่เดินเข้างานมาด้วยกัน
                “I’m not your girl Siwon!” เฮนรี่ทำหน้าง้ำงอกับคำแซวเล่นของซีวอน “Have you seen Zhoumi? I’ve not seen him all day”
                “Zhoumi already came here, why are you always stick with your boyfriend Henry? Ouch!!!” ซีวอนแหกปากร้องเมื่อเฮนรี่ฟาดเข้าไปที่แขนเต็มแรง  เรียวอุคหัวเราะเบาๆกับภาพที่เห็น
                “Shut up!!! where’s the drink?” นิ้วชี้เล็กๆชี้ไปที่ใบหน้าของคนตัวสูงกว่า เสียงแหลมเล็กของเด็กหนุ่มชาวจีนยังแว้ดๆไม่เลิก
                “In the kitchen find everything you need including Zhoumi Oops!!” เฮนรี่ทำท่าจะตีมาที่แขนแกร่งอีกครั้ง แต่คราวนี้ซีวอนหลบทัน เรียวอุคกับซีวอนยืนขำมองดูเพื่อนชาวจีนเข้าไปยินเครื่องดื่มในครัว และแน่นอนคงจะไปหาโจวมี่ไปเม้าท์ภาษาจีนให้สนุกปากด้วยนั่นแหล่ะ
                เป็นไงบ้าง เรียวอุค ฉันไม่เคยเห็นนายปาร์ตี้ที่ไหนเลยนะเนี่ย”  ซีวอนเอ่ยเป็นภาษาเกาหลี ภาษาบ้านเกิดที่คุ้นเคย ร่างบางเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้เบาๆ
                วันนี้เครียดๆน่ะ
                “อย่าเครียดๆ  ไปสนุกกันซีวอนโอบไหล่คนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกัน
                ปาร์ตี้ของซีวอนทีคนมาเยอะมากจริงๆ ร่างบางนั่งลงที่โซฟา ยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีกรีเบาๆมาจิบ ส่วนซีวอนเดินไปทักทายเพื่อนคนโน้นคนนี้ในงาน เรียวอุคมองดูบรรยากาศไปรอบๆ แล้วหวนนึกถึงฉายาของตัวเองเมื่อก่อน      ‘party boy’ ใครๆก็เรียกร่างบางว่าอย่างนั้น เรียวอุคยิ้มน้อยๆ ซองมินกับดงเฮจะเป็นยังไงบ้างนะ เราสามคนสนิทกันมากเลยนี่นา
                ก่อนที่ภาพของคุณอาจะผุดขึ้นมาในความทรงจำทุกครั้งที่เขาเผลอนั่งนึกถึงอดีต
                มือเล็กหยิบเครื่องดื่มสีทับทิมมาขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็วราวกับจะลบภาพนั้นออกไปได้ แก้วแล้วแก้วเล่า... จนใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีน้อยๆ ภาพที่อยู่รอบตัวเริ่มเบลอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องกินไป 3-4 ขวดถึงจะเมา แต่ช่วงนี้เรียวอุคร่างกายอ่อนแอจากการพักผ่อนน้อย
                ก็เป็นเพราะใครคนนั้นอีกนั่นแหล่ะ
                มาคนเดียวหรอครับเสียงเข้มที่ไม่คุ้นเคยเอ่ยขึ้น พร้อมกับหย่อนตัวลงข้างๆเรียวอุค ร่างบางหันไปมอง พยายามใช้สายตาเพ่งว่าเป็นใครที่มาทักทาย
                มาคนเดียวฮะเรียวอุคยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มแปลกหน้า สายตาหวานฉ่ำเยิ้ม เป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
                ผมคยูฮยอนนะ ว่าแล้วเชียว ว่าคุณต้องเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน ชื่ออะไรหรอครับชายหนุ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
                ผมเรียวอุคนะ”  
                ทั้งสองนั่งพูดคุยกันอย่างดูสนุกสนาน ร่างบางเมื่อเหล้าเข้าปากแล้วนิสัยเดิมๆเริ่มกลับมา คยูฮยอนขยับเข้ามานั่งใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเรียวอุคแทบจะไปเกยบนตักหนานั่น ร่างบางไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด กลับมองตาคมของอีกฝ่ายฉ่ำเยิ้ม เมื่อมือหนาเอื้อมมากระชับเอวบางให้เข้าใกล้มากขึ้น คยูฮยอนเห็นดังนั้นจึงเลื่อนใบหน้าคมเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายคือริมฝีปากอิ่มที่ขึ้นสีน่าสัมผัสอยู่ในขณะนี้ ร่างบางขมวดคิ้วน้อยๆด้วยความงุนงงกับท่าทางของเพื่อนใหม่ แต่เป็นเพราะตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั่นเอง ทำให้ใบหน้าหวานอยู่นิ่งไม่ได้ขยับหนีไปไหน
                อื้ออร่างบางครางต่ำในลำคอ เมื่อริมฝีปากหนาบดเบียดลงมา ก่อนที่เรียวอุคจะผละออกอย่างรวดเร็วเมื่อสติกลับคืนสู่ร่าง รับรู้ได้จากลิ้นเรียวที่จะเข้ามาพัวพันกับลิ้นตัวเอง
                ผ ผมต้องกลับแล้วร่างบางลุกขึ้น มองหน้าอีกคนที่กำลังผงะไปเล็กน้อย
                ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินคุณคยูฮยอนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จับมือเล็กของร่างบางที่กำลังจะเดินออกไปไว้   เรียวอุคพยายามจะแกะมือนั้นออก
                ผมไม่ได้โกรธคุณว่าพลางแงะนิ้วแข็งที่เกาะข้อมือตัวเองไว้แน่นเหลือเกิน
                ถ้างั้น ขอผมไปส่งคุณนะคยูฮยอนขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นอีก เรียวอุคใช้จังหวะทีเผลอสะบัดมือออกแล้ววิ่งจากงานไปอย่างรวดเร็ว
                คยูฮยอนวิ่งตามร่างบางไป แต่ก็ตามไม่ได้ถนัดนัก เพราะจำนวนคนที่มางานปาร์ตี้เป็นจำนวนมาก คนตัวเล็กหายไปจากสายตาของร่างสูงที่สบถออกมาเบาๆ
                โธ่เว้ย ไม่น่าให้หลุดมือเลย แม่ง จะได้ฟันอยู่ละแลบลิ้นเลียริมฝีปากเบาๆอย่างกระหายอยากเมื่อนึกถึงริมฝีปากอิ่มนุ่มนิ่มของใครอีกคน


                “แฮ่ก แฮ่กทางด้านร่างบางที่เห็นว่าวิ่งออกจากปาร์ตี้มาไกลพอสมควรแล้วจึงค่อยๆหยุดเดิน คนตัวเล็กหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน อาการปวดหัวอย่างหนักกลับมาอีกครั้งพร้อมกับสติที่เริ่มถดถอยจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ร่างบางมองไปรอบๆเห็นเป็นบ้านคนที่อยู่ติดกันคล้ายๆหมู่บ้าน บริเวณรอบๆไม่มีคนเลย เรียวอุคพยายามเพ่งสายตามองรถแท็กซี่ที่อาจจะผ่านมาบ้าง แต่ถนนในหมู่บ้านแบบนี้คงหายากกว่าถนนใหญ่เยอะ อาการปวดหัวเริ่มหนักขึ้นราวกับหัวจะระเบิด  ภาพรอบกายเบลอจนมองไม่ชัด
                ค คุณอาริมฝีปากเล็กพึมพำเบาๆก่อนสติจะดับวูบ


                “อ เอ๋ ใครมานอนข้างถนนกันอาจารย์หนุ่มขับรถมามองคนตัวเล็กที่เขาคิดว่าเป็นคนจรจัดมานอนข้างถนน แต่ดูจากการแต่งตัวและผิวพรรณที่ดูดีกว่าคนจรจัดมากนัก ทำให้ร่างสูงตัดสินใจลงจากรถไปดูคนที่นอนอยู่ให้ชัดๆ
                “Hey you, are you ok?” จงอุนเขย่าตัวเรียวอุคเพียงเบาๆ  จากกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ติดตัวร่างบางกับลมหายใจที่สม่ำเสมอนั่น ทำให้ร่างสูงคิดว่า คนคนนี้คงเมาหลับไปแล้ว
                “Heyyy are you ok?”  ชายหนุ่มออกแรงเขย่าตัวจนอีกคนเริ่มสลึมสลือขึ้นมามองหน้าคนที่มารบกวนการนอนของเขา เรียวอุคขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะยิ้มหวานจนคนมองใจกระตุกไปเล็กน้อย
                “Good night” ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะหลับไปอีก จงอุนถอนหายใจ นี่เขาต้องมาคุยกับคนเมาใช่ไหมเนี่ย
                “Hey hey you, where do you live? Where do you live?” มือหนาตบเข้าที่ใบหน้าหวานเบาๆ เพียงเพื่อให้อีกคนรู้สึกตัว เรียวอุคขมวดคิ้วก่อนจะขยับใบหน้าเพียงเล็กน้อย
                “Ummm Buckingham Palace” จงอุนแทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินคำตอบที่แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้
                “C’mon where do you live?”  ร่างสูงเฝ้าถามซ้ำซาก หวังว่าจะไปส่งคนที่ไม่ได้สติให้ไปนอนที่บ้าน จะได้ปลอดภัยกว่าการมานอนข้างถนนอย่างนี้ จนเรียวอุคส่งเสียงในลำคออย่างรำคาญ
                เฮ้อออ ไม่มีทางเลือกแล้วสินะร่างสูงถอนหายใจก่อนจะแบกคนที่นอนหลับไปขึ้นรถและขับกลับบ้าน คืนนี้ให้นอนที่บ้านละกันถึงแม้จะกังวลบ้างกับการนำคนแปลกหน้าเข้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าคนเมานี่จะทำอะไรเขา เขาคงจับทุ่มปลิวไปแล้ว จากน้ำหนักตัวที่เบาขนาดนี้


                ขับรถมาถึงบ้านเดี่ยวขนาดกลางไม่ใหญ่มากเพราะอยู่คนเดียว จงอุนแบกคนที่หลับสนิทตลอดทางลงจากไปไว้บนเตียงในห้องนอน เท้าสะเอวมองดูคนแปลกหน้าที่หลับสบายบนเตียงอย่างหนักใจ
                เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่พรุ่งนี้ละกันจงอุนว่าก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กและกะละมังใส่น้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ร่างบางบนเตียง
                มือหนาเช็ดเบาๆไปตามโครงหน้าหวาน ระหว่างนี้สายตาคมก็พิจารณาใบหน้าของคนที่เมาไม่ได้สติไปด้วย ริมฝีปากอิ่มและแก้มใสสีจัดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ จมูกโด่งรั้นแสดงว่าเป็นคนดื้อไม่น้อย ดวงตาที่หลับพริ้มถ้าลืมขึ้นมาคงจะสวยน่าดู ริมฝีปากหนาเผลอยิ้มออกมาน้อยๆกับภาพที่เห็น 
                “น่ารักดีแหะมือหนาเอื้อมไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าคนตัวเล็ก ก่อนจะนำกะละมังไปเก็บและอาบน้ำ โดยในคืนนี้ เจ้าของบ้านคงต้องนอนที่โซฟาแทน



               
                “คุณอา!!!!” ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาในเวลาเช้า ร่างบางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ซบใบหน้าลงกับมือทั้งสองเมื่อความฝันนั้นตามมารังควานเขาอีกแล้ว
                อ่า ปวดหัวชะมัดมือเล็กกุมศีรษะเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหมายจะดูนาฬิกาตามปกติ แต่แล้ว
                ห เหร่างบางมองไปรอบๆอย่างตกใจ ที่นี่ที่ไหนเนี่ยเป็นใครก็ต้องตกใจเมื่อเช้าตื่นขึ้นมาบนเตียงใครก็ไม่รู้ แล้วเมื่อคืนก็ยังปวดหัวตึ้บจำอะไรไม่ได้อีก ร่างบางลงจากเตียงเดินไปรอบบ้าน เพื่อดูว่ามีใครคนอื่นอยู่อีกไหม
                เรียวอุคมองไปรอบๆบ้านอย่างสนใจ เพราะสไตล์การตกแต่งบ้านแบบนี้ เน้นโทนสีขาวดำแบบนี้ มันคล้ายแบบที่คนคนนึงชอบ
                คอนโดของคุณอาก็ตกแต่งสไตล์นี้เหมือนกัน...
                เรียวอุคหยุดเรื่องราวที่จะไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำเอาไว้ก่อน ดวงตาคู่สวยสะดุดกับคนคนนึงที่นอนอยู่บนโซฟา ดวงตาเบิกกว้างอย่างแทบจะไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง พยายามระลึกว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือไม่ ระหว่างที่เท้าก็เดินเข้าไปหาร่างสูงที่ดูคุ้นเคยนั่นช้าๆ
                ค คุณอามือเล็กที่สั่นเทาเอื้อมไปลูบไล้ที่โครงหน้าหล่อนั่น หัวใจดวงน้อยกลับมาเต้นระรัวราวกับได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มเผลอยิ้มกว้างออกมา รู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวและน้ำใสๆไหลออกมา
                ฮึก ฮึก คุณอาร่างบางโผเข้ากอดร่างสูงทำเอาคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
                เห
                “คุณอา คุณอา ฮึก คุณอามารับเรียวอุคแล้วใช่ไหมครับ ฮืออ จงอุนมองดูคนที่กำลังร้องไห้กอดตัวเองอยู่อย่างงงๆ แถมยังมาเรียกเขาว่าคุณอาอีก
                เดี๋ยวก่อนครับ คุณชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบแว่นสายตามาใส่ เพื่อที่จะได้มองอีกคนถนัดขึ้น เรียวอุคค่อยๆผละจากอกแกร่งเงยหน้าขึ้นมามองอีกคน
                ตื่นซะทีจงอุนยิ้มให้กับคนที่ปาดน้ำตาอย่างรีบร้อน เมื่อรู้ว่าตัวเองอาจเข้าใจผิด เมื่อคืนคุณเมาหลับอยู่ข้างถนน ผมกลัวว่าคุณจะเป็นอันตราย เลยรับมานอนที่บ้าน เมื่อกี้คุณพูดว่าคุณอา คุณมีคุณอาอยู่อังกฤษหรอครับ โทรเรียกให้เขามารับไหม
                “ครับ เคยมี แต่เขาตายไปแล้วล่ะครับเรียวอุคฝืนยิ้ม ดวงตาหวานยังคงชอกช้ำจากการร้องไห้อยู่
                อ่า ผมขอโทษนะครับ
                คุณเป็นคนเกาหลีหรอร่างบางลุกขึ้นมานั่งข้างจงอุนบนโซฟา
                ครับ ผมชื่อจงอุน คิม จงอุน ชื่อภาษาอังกฤษของผมคือ Jarome Kim” ร่างสูงเอ่ยแนะนำตัว
                “Jarome Kim” ร่างบางหันมา คุณเป็นอาจารย์ผมนี่
                “อ่อ ใช่ๆ ผมเป็นอาจารย์พิเศษจงอุนพยักหน้าก่อนจะขยับแว่น อ่า ผมว่าแล้วทำไมคุ้นหน้าคุณจัง คุณเป็นนักศึกษาที่ผมเข้าสอนเมื่อวานนั่นเอง
                “ครับเรียวอุคมองดูรอยยิ้มอบอุ่นของจงอุนที่ส่งมาให้เขา เหมือนมากเหลือเกิน เหมือนกับใครอีกคน...
                เอ่อ คุณมีญาติชื่อ เยซอง บ้างไหมครับ”  เรียวอุคตัดสินใจถามออกไป บางที่การที่ทั้งสองคนหน้าเหมือนกันขนาดนี้ อาจจะเป็นญาติกันก็ได้
                เยซอง หรอ เอร่างสูงทำหน้าคิดสักพักก่อนจะส่ายหน้า ไม่มีหรอก  อาจจะมีแต่ผมไม่รู้ก็ได้มั้ง แต่เท่าที่ผมนึก ไม่มีนะ
                “ครับ ครับเรียวอุคนั่งเหม่อลอยไปพักหนึ่ง
                เดี๋ยวผมไปส่งคุณนะ เมื่อคืนผมถามแล้วว่าบ้านคุณอยู่ไหน คุณดันตอบว่าพระราชวังบัคกิ้งแฮมซะอย่างนั้น ผมไม่อยากโดนทหารยิงทิ้งเลยต้องเอาคุณมานอนที่บ้านก่อนรู้ไหม เจ้าหญิงร่างสูงส่งสายตาล้อเลียนมาให้อีกคนที่หน้าขึ้นสีระเรื่อ
                ผมเมาขนาดนั้นเลยหรอร่างบางยิ้มน้อยๆด้วยความเขิน เมื่ออีกคนพยักหน้า
                ว่าแต่ คุณชื่ออะไรครับ เจ้าหญิง ทั้งๆที่ร่างบางตรงหน้าเป็นผู้ชาย แต่จงอุนก็ยังอยากจะเรียกว่าเจ้าหญิงอยู่ดี คงเป็นเพราะใบหน้าหวานๆกับร่างกายที่ดูบอบบางนั้นล่ะมั้ง ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มอย่างนึกสนุก
                เช็คชื่อผมสิครับ อาจารย์






                จงอุนขับรถไปส่งร่างบางในตอนเช้า โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ เรียวอุคไม่มีเรียน ส่วนเขาเองก็ไม่มีสอน เลยไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก ไม่งั้นคงวุ่นวายมากกว่านี้แน่
                มาส่งถึงที่วังแล้วครับร่างสูงยังคงหยอกเย้าไม่เลิก เรียวอุคยิ้มก่อนจะเอื้อมตัวไปหาคนขับรถ ริมฝีปากบางจรดเบาๆเข้าที่แก้มป่องของอีกคน
                ขอบคุณครับ”  สบตาหวานซึ้งกับอีกคนที่มองมาด้วยสายตาแบบเดียวกัน เรียวอุคยิ้มให้ก่อนจะลงจากรถไป ร่างบางเดินขึ้นไปบนห้องหวังจะอาบน้ำให้สดชื่นแล้วนอนสักหน่อย ในใจหวนนึกถึง เฮนรี่ เพื่อนของตนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็คงไม่พ้นเมาแอ๋อยู่ในงานแล้วตอนนี้ก็คงอยู่ที่ห้องของโจวมี่นั่นแหล่ะ นึกแล้วเรียวอุคก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะยิ้มน้อยๆเมื่อเหตุการณ์เมื่อคืนนำพาให้เขาได้มารู้จักกับ จงอุน ด้วย  จงอุน ที่ช่างเหมือนกับคนนั้นไปทุกๆระเบียดนิ้ว
                บางทีการเริ่มต้นใหม่กับคนนี้อาจทำให้อะไรดีขึ้นก็ได้


                หลายอาทิตย์ต่อมา อาจารย์หนุ่มและลูกศิษย์หน้าหวานก็ยังคงเจอหน้ากันในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง มีอยู่ครั้งหนึ่งจงอุนนึกสนุกเช็ครายชื่อของนักศึกษาที่มาเข้าเรียน ซึ่งปกติเขาไม่ค่อยสนใจจะทำ เพราะถือว่าใครอยากเรียนก็มาไม่อยากเรียนเขาก็ไม่สนใจเหมือนกัน จนจงอุนรู้ว่าเด็กหนุ่มที่เขาสนใจอยู่ชื่อว่า คิมเรียวอุค ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปากนึกแผนการสนุกๆขึ้นมา

                “Your test score is announced at the board. You can go and see it after this class.”  อาจารย์คิมหรือ จงอุนประกาศขึ้นในห้องเรียน ทำให้นักศึกษาตื่นเต้นกันใหญ่กับคะแนนสอบวิชานี้ที่ถือว่าหน่วยกิตเยอะเลยทีเดียว                เรียวอุคมองหน้าอาจารย์ผู้สอนนิ่ง ในทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงประกายแปลกๆในดวงตาคมคู่นั้นขณะที่ลอบสบตากับเขา
                หวังว่าคงไม่เล่นอะไรแผลงๆนะอาจารย์
                หลังจากหมดคาบ นักศึกษาจำนวนมากไปรุมดูบอร์ดประกาศคะแนน เรียวอุคกับเฮนรี่ด้วยความที่ตัวเล็กจึงสามารถแซกซอนเข้าไปได้จนถึงหน้าบอร์ด
                “Whoaaa I got B what about you Ryeowook?” เฮนรี่หันมาทางเรียวอุคที่กำลังมองบอร์ดประกาศคะแนน รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากเมื่อเห็นข้อความหลังชื่อของตัวเอง
Ryeo Wook Kim                                             Contact your lecturer




                จงอุนนั่งเล่นรูบิคอยู่ในห้องของตนอย่างสบายอารมณ์รอใครบางคนอยู่ ไม่นานนัก ร่างบางที่เขาสนใจก็เดินเข้ามาในห้อง
                สวัสดี เรียวอุค คิมจงอุนวางรูบิคที่แก้เสร็จเรียบร้อยลง ยิ้มให้อีกคนที่นั่งลงตรงข้ามเขา
                ผมอยากรู้คะแนนของผมครับ
                นักเรียนหัวกะทิอย่างเธอน่ะ A อยู่แล้วจงอุนยิ้มพลางหยิบกระดาษคำตอบออกมาให้เรียวอุคดู
                เอ ปกติวิชานี้ ผมได้ A บวกร่างบางขมวดคิ้วน้อยๆ จงอุนเลิกคิ้วเมื่ออีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้
                แหม ผมไม่ค่อยชอบกดคะแนนใครหรอกนะจงอุนหัวเราะเบาๆ ไม่แน่ นักศึกษาอาจจะมองหน้าอาจารย์ผู้สอนเพลินจนไม่ค่อยตั้งใจเรียนก็ได้
                “หรอครับ ผมเข้าใจแล้ว งั้นผมขอตัวร่างบางทำท่าจะลุกเดินออกไป แต่ก็ไม่ทันจงอุนจับแขนเล็กนั่นไว้อย่างรวดเร็ว
                อย่าเพิ่งไปเลยนะ ผมแค่อยากคุยกับคุณร่างบางมองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
                “ทำไมล่ะ
                “ไม่รู้สิ บางที ผมอาจชอบคุณก็ได้จงอุนพูดคำที่ความหมายลึกซึ้งออกมาหน้าตาย ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อน้อยๆ เมื่อสายตาสื่อความหมายนั่นส่งมาให้
                หึ คุณแน่ใจเมื่อไรค่อยมาหาผมละกันนะร่างบางสะบัดแขนออกแล้วเดินจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานก้มหน้าซ่อนความเขินอายที่มีอยู่อย่างมากมาย





                ในตอนค่ำ เป็นเวลาปกติที่เรียวอุคนั่งอ่านหนังสือ แต่วันนี้ร่างบางยอมรับว่าไม่มีสมาธิจดจ่อกับตำราเรียนเท่าไร เรียวอุคถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือปิดหนังสือลง เท้าคางพลางนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น
อย่าเพิ่งไปเลยนะ ผมแค่อยากคุยกับคุณร่างบางมองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
            “ทำไมล่ะ
            “ไม่รู้สิ บางที ผมอาจชอบคุณก็ได้
                คนบ้าอะไร บอกชอบคนอื่นได้อย่างน่าไม่อายเลยนะ ><’
                Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
                เรียวอุคสะดุ้งหันไปมองวัตถุสี่เหลี่ยมที่สั่นอย่างบ้าคลั่งข้างหนังสือ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยปรากฏบนหน้าจอ มือเล็กหยิบขึ้นมาก่อนจะกรอกเสียงลงไป
                “Hello?”
                “Good evening, do you miss me right now?” เสียงเข้มฟังดูคุ้นเคยตอบกลับมา แต่เรียวอุคนึกไม่ออกว่าใครที่โทรมาหาเขาพร้อมถามคำถามน่าตบแบบนั้นออกมา
                “Sorry please tell your bussiness or I’ll end this call.”
                “แหม่ๆ อย่าเพิ่งวางสิครับ ผมแค่คิดถึงคุณร่างบางยิ่งงงหนักเมื่ออีกฝ่ายพูดเป็นภาษาเกาหลี
                นั่นใครเสียงหวานเริ่มออกอาการเหวี่ยงนิดๆ
                ผม จงอุน ไง จำได้ไหมครับตอนนี้เรียวอุคคงมองไม่เห็นว่าจงอุนกำลังยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
                อ่อ คุณนั้นเอง มีอะไรหรอครับร่างบางกอดอก ภายใต้ใบหน้าหวานที่นิ่งเฉยนั้นใครจะรู้ว่าลึกๆแล้วเขาก็แอบดีใจอยู่เหมือนกัน
                ผมแค่อยากได้ยินเสียงคนที่ผมชอบ ต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ไหมครับ
                ถามจริงๆเถอะจงอุนเลิกคิ้วเมื่อเสียงหวานนั่นฟังดูจริงจังขึ้นมาก คุณชอบผมจริงๆหรอ จงอุนร่างบางตัดสินใจถามออกไป อีกฝ่ายคงไม่รู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลต่อร่างบางมากขนาดไหน ตั้งแต่แรกเจอ จงอุนยิ้มที่มุมปากน้อยๆ
                คำตอบอยู่ที่หน้าห้องคุณแล้วครับ เจ้าหญิงจงอุนกดวางสายไป เรียวอุคหันไปมองที่ประตูก่อนจะรีบเดินไป มือเล็กเอื้อมไปบิดลูกบิดอย่างช้าๆ ค่อยๆเลื่อนใบหน้าหวานดูที่หน้าห้องของตัวเอง
                ว่างเปล่า!!..
                เรียวอุคเปิดประตูออกกว้าง ใบหน้าหวานยู่ลงอย่างแปลกใจปนโมโหที่โดนอีกคนหลอก
                แฮ่!!!” เรียวอุคแหกปากร้องลั่นเมื่ออีกคนโผล่มา จงอุนหัวเราะลั่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายสะดุ้งจนตัวโยน
                ไอ่บ้าเอ๊ย ไอ่จงอุนคนบ้าๆๆๆๆมือเล็กกระหน่ำตีไปที่ไหล่แกร่ง
                โอ๊ย พอแล้วๆ ฮ่าๆ ผมขอโทษ ฮ่าๆๆๆๆๆๆร่างสูงยกมือไม้ขึ้นมากันเป็นพัลวัน คนขี้แกล้งยังคงขำไม่หยุด
                “You’re so crazy” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา มือเล็กค่อยๆหยุดตีและลดลงเมื่อมือหนาจับข้อมือตัวเองเอาไว้ ทั้งสองสบตากันอย่างสื่อความหมาย จงอุนเลื่อนใบหน้าคมเข้าหาอีกคนพร้อมกับค่อยๆหลับตาลง
                “Yes I’m crazy…”
                “…”
                “about you.”  เสียงเข้มเอื้อนเอ่ยถ้อยคำหวานซึ้ง ร่างสูงจรดหน้าผากเข้ากับหน้าผากเนียนของอีกคน เรียวอุคหลับตาพริ้ม ริมฝีปากบางระบายยิ้มอย่างมีความสุข...
                “คบกับผมนะเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแผ่วเบา แต่สำหรับร่างบางแล้ว มันชัดเจน...ยิ่งกว่าอะไร
                ได้สิเรียวอุคเงยหน้าขึ้นมาสบตาหวาน ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกได้ถึงปลายจมูกที่เริ่มแตะกัน
                Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
                คนทั้งสองสะดุ้ง ผละออกจากกันเล็กน้อยเมื่อโทรศัพท์เครื่องเดิมของร่างบางแผดเสียงขึ้นมา จงอุนถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ทำให้ร่างบางอดขำไม่ได้
                “Hi Henry” ร่างบางกดรับโทรศัพท์พลางจูงมืออีกคนเข้ามาในห้อง จงอุนมองดูอีกคนโทรศัพท์อย่างมีความสุขแล้วยิ้มเหมือนคนบ้า แหมคนมันมีความรักอะไรก็ช่างดีไปหมด
                “OK good night Henry.” เรียวอุคหันมาก็เจอร่างสูงที่เดินเข้ามาโอบเอวบางไว้อย่างรวดเร็ว
                เด็กคนนั้นชื่ออะไรนะ เฮนรี่ เฮนรี่ หลิว ใช่ไหม ผมไปหักคะแนนเขาดีกว่า ข้อหาขัดขวางความสุขของอาจารย์ผู้สอน  เรียวอุคตีเบาๆไปที่ไหล่แกร่งเมื่อได้ยินจงอุนพูด
                ถ้าคุณหักคะแนนเพื่อนผมเราจบกัน
                โอเค แหม ใครจะกล้าขัดบัญชาเจ้าหญิงล่ะครับจงอุนยื่นหน้ามาใกล้ แกล้งให้อีกคนหน้าแดงเล่น ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู แล้วผมพาเจ้าหญิงขึ้นเตียงได้ยังครับ
                “ไม่ต้องเตียงหรอก โซฟาก็ได้ร่างบางผลักจงอุนให้นั่งลงกับโซฟาก่อนที่จะขึ้นไปนั่งคร่อมให้ร่างกายสัมผัสกันแนบชิดชวนให้วาบหวิว มือบางลูบไล้ไปทั่วโครงหน้าหล่อ ส่งสายตายั่วยวนแบบที่ไม่ได้ทำมานาน อื้มม จะว่าไป ผมห่างหายเรื่องพวกนี้มานานเหมือนกันนะ
                “หรอครับ แล้วตอนนี้ยังจำได้อยู่หรือเปล่า ให้ผมช่วยทบทวนไหม คนดีมือหนาสัมผัสคลึงไปที่บั้นท้ายนิ่มก่อนจะเลื่อนมาลูบไล้เอวบางอย่างทะนุถนอม
                “ครับ สงสัยต้องรบกวนอาจารย์สักหน่อย






                หลังจากที่ทั้งสองคบหาดูใจกัน อะไรๆก็ดูเหมือนจะมีความสุขดี เรียวอุคช่างแสนดี อ่อนหวาน ขี้อ้อน บางทีก็ยั่วเย้าจนตัวเขาเองคาดไม่ถึง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาคลางแคลงใจไม่น้อย...
                จงอุนเรียวอุคเดินเข้ามาซบลงที่ไหล่หนา เมื่อมาหาเขาที่บ้านในตอนเย็น หิวหรือยังครับ เดี๋ยวผมทำอะไรให้กินนะ
                “ยังไม่ค่อยหิวครับจงอุนขยับแว่นมองคนในอ้อมกอด ในหัวครุ่นคิดเรื่องที่ตัวเองสงสัย ก่อนจะตัดสินใจถามออกเรียวอุคครับ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม
                “มีอะไรครับร่างบางนั่งลงข้างๆจงอุน
                คุณอากับเยซอง เนี่ย ใครหรอครับเรียวอุคหน้าชาไปเมื่อได้ยินคำถามจากร่างสูง
                บางทีตอนเราเอ่อ มีอะไรกัน เรียวอุคก็พูดชื่อคุณอาออกมา หรือไม่ก็เยซอง ผมไม่เข้าใจน่ะครับ เป็นคำอุทานใหม่หรือเปล่าครับ หรือเป็นชื่อคน ในหัวของเรียวอุคว่างเปล่า คนคนนี้เหมือนคุณอาของเขามาก ทั้งลักษณะภายนอก เสียง สัมผัสหรือแม้กระทั่งรสรัก ยังเหมือนกันไม่มีที่ติ จนบางทีเขาอาจจะเผลอปากออกมาด้วยความเคยชิน
                “จงอุนรักผมไหมครับเรียวอุคยิ้มเบาบาง พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลเอาไว้ก่อน
                รักสิครับ ผมรักเรียวอุคนะจงอุนดึงอีกคนเข้ามากอด
                ผมก็รักคุณมากนะครับ ผมจะเล่าให้คุณฟังนะ”  ร่างบางตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตให้อีกคนฟัง จงอุนดูตกใจไม่น้อยเมื่อรู้เรื่องราวของคนตรงหน้า แต่ขณะเดียวกัน ความรู้สึกอีกอย่างก็บังเกิดขึ้นมา
                ถ้าอย่างนั้น เรียวอุครักผมที่ผมเป็นคิมจงอุนจงอุนเอื้อนเอ่ยช้าๆ สบตาอีกคนนิ่ง หรือผมเหมือนเป็นเงาสะท้อนของคุณอากันแน่ครับ
                “….”  ร่างบางนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร เพราะสิ่งที่จงอุนพูดมันเป็นสิ่งที่ร่างบางบอกกับตัวเองมาตลอด
                คือใช้จงอุนเป็นเงาของเยซองในอดีต เยซอง ที่ร่างบางพยายามลืมว่าเคยมีตัวตนอยู่บนโลกและพยายามลืมคำสัญญาว่าจะรอซึ่งกันและกัน แต่สุดท้าย เป็นเรียวอุคฝ่ายเดียวที่ต้องรออย่างทนทุกข์ทรมาน
                จงอุนยิ้มเบาบางเมื่อเห็นท่าทางนิ่งเงียบของร่างบางเขาก็พอจะเดาคำตอบในใจของอีกฝ่ายได้ แขนแกร่งดึงอีกคนมากอดไว้แนบอก
                ช่างมันเถอะครับ ถ้าเป็นสิ่งที่เรียวอุคทำแล้วมีความสุข ผมจะเป็นเงาสะท้อนของใครคนนั้น ผมยอมได้ทุกอย่าง ถ้ามันทำให้ที่รักของผมมีความสุข อย่าคิดมากเลยนะครับ
                จริงหรอเรียวอุคเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาหวานเบิกกว้างฉายแววถึงความดีใจ ไม่มีแม้แต่คำพูดโต้แย้งใดๆ
                จริงสิครับ
                เย้ ดีใจที่สุดเลยร่างบางกอดคนตรงหน้าแน่นขึ้นอีก ถ้างั้น ผมขอเรียกคุณว่า คุณอา นะ
                “ได้สิครับ ใครจะกล้าขัดบัญชาเจ้าหญิงจงอุนยิ้มให้กับคนในอ้อมกอด
                ดีใจที่สุดเลย เรียวอุครักคุณอานะครับเสียงหวานเอื้อนเอ่ยพลางซบลงกับอกแกร่ง ดวงตาหวานหลับพริ้มอย่างมีความสุข สุขใจมากเหมือเกิน
                จงอุนได้แต่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ดวงตาคมมองไปที่กระจกที่สะท้อนหน้าเขาพอดี ชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเองในกระจกอย่างรู้สึกสมเพช
                คงเป็นได้แค่นี้สินะจงอุน นายคงเป็นได้แค่เงาสะท้อน ของคนที่เรียวอุครักเท่านั้น
                ‘แต่ผมจะรอนะครับเจ้าหญิง รอวันที่คุณจะรักคิมจงอุน ตัวจริงของผมสักที  



               
               
               
               




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น