How to…
“คัท!!! โอเค เลิกกองได้ครับ”
สิ้นเสียงผู้กำกับทุกคนในกองถ่ายต่างทำหน้าที่ของตนกันจ้าละหวั่น
เพื่อที่จะได้กลับบ้านกันเสียทีหลังจากการถ่ายทำยาวนานต่อเนื่องมาทั้งวัน
“เรียวอุค
วันนี้นายเล่นดีเหมือนเดิมนะ” ผู้กำกับเดินเข้าไปหาหนุ่มน้อยนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่
พลางยิ้มและตบไหล่เรียวอุคเบาๆ
“ขอบคุณครับ
ผมจะพัฒนาตัวเองครับ” เรียวอุคก้มหัวน้อยๆ
เอ่ยออกไปอย่างถ่อมตัว เขายังเป็นน้องใหม่
การหลงระเริงไปกับคำชมมันคงเป็นเรื่องไม่สมควร
“เรียวอุค
รีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มีงานแต่เช้านะ” เสียงเข้มของผู้จัดการส่วนตัวแทรกมาระหว่างที่เรียวอุคยืนคุยกับผู้กำกับได้สักพัก
“ฮะ พี่เยซอง
ผมกลับก่อนนะครับ ผู้กำกับ” เรียวอุคโค้งเป็นการลา
“ขอบคุณมากครับ”
เยซองโค้งก่อนจะเดินโอบไหล่ร่างบางให้เดินไปด้วยกัน
“พรุ่งนี้นะเรียวอุค
มีงานถ่ายแบบตอน 7 โมงครึ่ง เดี๋ยวพี่จะไปรับนายตอน 6
โมงนะ หลังจากนั้นมีอัดรายการที่สถานีตอนเย็นแล้วก็……” ผู้จัดการหนุ่มร่ายคิวงานให้อีกคนที่นั่งนิ่งๆฟัง
“อื้มมม
แล้วก็มีถ่ายโฆษณาที่สตูดิโอก็หมดแล้วล่ะ” เยซองหันมามองอีกคนที่นั่งเหม่อลอยเหมือนคิดอะไรอยู่
“เรียวอุค” เสียงเข้มเอ่ยเรียกชื่ออีกคนเพียงเบาๆ ร่างบางสะดุ้งน้อยๆก่อนจะหันมา
“ค ครับ” คนตัวเล็กทำหน้าเหรอหรา
“ได้ยินที่ฉันพูดใช่ไหม
ตารางงานน่ะ” เยซองมองหน้าอีกคน เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจกับท่าทางล่องลอยของร่างบาง
แต่เยซองเข้าใจว่าอีกคนคงจะเหนื่อย
“ได้ยินครับ”
เรียวอุคพยักหน้ารัวๆ
“อืม” เยซองลอบมองอีกคนที่ยังคงเหม่อลอยเหมือนมีอะไรในใจต่อ
“นายมีอะไรหรือเปล่าเรียวอุค...หรือว่าเหนื่อย”
“ค คือ
ผมไม่รู้ว่าพี่เยซองจะช่วยผมได้ไหม” เรียวอุคเอ่ยอย่างอ้อมแอ้ม
ดวงตาหวานสบกับอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ
“บอกฉันมาได้เลย
ฉันเป็นผู้จัดการนายนะ ฉันทำให้นายได้ทุกอย่าง” เยซองโอบไหล่อีกคนอย่างปลอบประโลม
“ค คือ เฮ้อออ” ร่างบางถอนหายใจก่อนจะสูดลมหายใจลึกและหันมาบอกด้วยท่าทางจริงจัง
“พี่ช่วยสอนผมจูบหน่อยได้ไหมครับ”
“ห่ะ!!” ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจ
“ทำไมล่ะ เรียวอุค”
“ผู้กำกับบอกผมว่าฉากเลิฟซีนที่กำลังจะถ่ายทำเร็วๆนี้อาจจะต้องจูบจริง”
คิ้วสวยตกลงอย่างกลุ้มใจ “ผ ผม จูบ ไม่เป็น”
“นายไม่เคยจูบกับใครเลยหรอ”
เยซองเอ่ยถามคนในอ้อมแขนอย่างหวั่นใจ ร่างบางส่ายหน้าเบาๆ
“ผมอายุ 17 เองนะ
จะให้ผมรีบเอาปากไปขยี้กับใครล่ะ” ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างอายๆ
เยซองถอนหายใจเบาๆ ก็จริงอย่างที่เรียวอุคว่า
“พี่จะสอนนายได้ยังไง ก็ในเมื่อ...” ในใจของเยซองสับสนวุ่นวายไปหมด “พี่กับนาย
ไม่ได้เป็นแฟนกัน เรียวอุค มันไม่ใช่เรื่องที่ใครๆก็ทำกันได้นะ”
“งื้ออออ” เรียวอุคส่งเสียงครางในคอ
ใบหน้าหวานก้มลงอย่างกลุ้มใจอีกครั้ง
เยซองมองภาพที่เห็นแล้วก็เริ่มจะใจอ่อนขึ้นมาบ้าง
‘นายนี่มันเด็กจริงๆเรียวอุค
ถ้าหากพี่หยุดตัวเองไม่ได้ล่ะ ถ้าหากพี่ล้ำเส้นไปมากกว่าจูบ...’ เยซองมองเรียวปากบางสีชมพูอ่อนอย่างชั่งใจ
“นะครับพี่
ผมไม่รู้จะไปพึ่งใครจริงๆ” เรียวอุคอิงซบไหล่กว้างอย่างอ้อนๆ
“ผมก็แค่ อยากแสดงให้สมจริงเท่านั้น”
“ก ก็ได้” เยซองเอ่ยรับปากอย่างช่วยไม่ได้
“จริงนะครับ” เรียวอุคเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนอย่างดีใจ “ถ้างั้น
ก็เริ่มเลยได้ไหมครับ”
“ก็ได้ หลับตาสิ” เยซองมองดวงตาหวานที่ค่อยๆปิดลง ริมฝีปากหนายิ้มน้อยๆอย่างไม่รู้ตัว
ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าไปหาอีกคนก่อนที่ประทับจูบไปที่ริมฝากบางน่าสัมผัส
เยซองรับรู้ได้ว่าเรียวอุคสะดุ้งน้อยๆ มือเล็กจิกเกร็งไปที่ไหล่แข็งทั้งสองข้าง
เรียวอุคพยายามเลียนแบบเยซอง ริมฝีปากหนาดูดดึงริมฝีปากบางเบาๆ เรียวอุคก็ดูดดึงไปที่เรียวปากอิ่มของอีกคนเบาๆเช่นกัน
ลิ้นเรียวไล้เลียชิมรสริมฝีปากสวยก่อนจะแทรกไปในโพรงปากเล็ก
เกี่ยวพันหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่สั่นน้อยๆ
คิ้วสวยขมวดแน่นเมื่อความรู้สึกวาบหวิวแปลกๆมันแล่นขึ้นมา
ลิ้นเล็กจูบตอบอย่างเงอะงะ ก่อนจะเคลื่อนไหวตามอีกคนที่ดูจะชำนาญกว่าเด็กอย่างเขามากเหลือเกิน
“แฮ่ก แฮ่ก” เรียวอุคผละออกมา
เมื่อรู้สึกหายใจไม่ออก
ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อน้อยๆกับเรียวปากบางที่เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดทำให้เยซองแทบจะทนไม่ไหว
ดวงตาคู่สวยฉ่ำเยิ้มมองผู้จัดการของตน
“ผ ผมเป็นยังบ้าง ใช้ได้ไหมฮะ” เรียวอุคเอ่ยถามอีกคน ในขณะที่รู้สึกเหนอะหนะที่ริมฝีปาก
ลิ้นเล็กแลบออกมาเลียคราบใสๆที่ริมฝีปากของตนออกเบาๆ
“นาย
ยังต้องฝึกกับฉัน อีกเยอะเลย” เยซองยิ้มให้กับคนที่หอบหายใจน้อยๆ
เรียวอุคหลับตาลงเมื่ออีกคนเลื่อนหน้าเข้าไปจูบเบาๆอย่างอดทนอดกลั้นอารมณ์ของตน
“อื้มมม แล้วมาจูบกันใหม่นะครับ”
เรียวอุคยิ้มหวานให้กับผู้จัดการหนุ่ม
หลังจากนั้น
เรียวอุคก็มาต้องมา “ฝึกพิเศษ” กับเยซองแทบทุกวัน เรียกว่าแทบจะทุกเวลาที่ว่างเลยดีกว่า
นักแสดงหนุ่มน้อยกับผู้จัดการก็มักจะหลบมุมหายกันไปสองต่อสองเสมอ
แต่ทุกคนก็ไม่ได้ผิดสังเกตอะไร เพราะเรียวอุคนั้นดูจะสนิทสนมกับผู้จัดการตัวเองมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ในห้องเก็บของแห่งหนึ่งของโรงแรม
สถานที่จัดงานเลี้ยงครบรอบของนิตยสารฉบับดัง
ยังมีคนสองคนที่บดเบียดริมฝีปากเข้าหากันอย่างไม่ยอมแพ้ ผู้ควบคุมจังหวะครางต่ำในลำคออย่างพึงใจ
พยายามอดทนอย่างมากที่จะไม่ไปยุ่มย่ามกับสาบเสื้อเชิ้ตสีขาวของร่างบาง มือเล็กที่วางนิ่งข้างตัวเลื่อนขึ้นมาช้าๆ
“อะ อื้มมมมม
พอก่อนฮะ แฮ่ก แฮ่ก” เรียวอุคดันอกแกร่งออกเบาๆ
ก่อนจะยิ้มน้อยๆ “วันนี้ผมเป็นยังไงบ้างครับ”
“วันนี้ พี่ให้ 6/10” เยซองยิ้มให้กับคนในอ้อมกอด ก่อนจะกระชับเอวบางให้แนบตัวเองมากยิ่งขึ้น “เวลาจูบ นายต้องกอดฉันด้วยสิเรียวอุค อย่าเอาแต่วางมือแข็งทื่อไว้ข้างตัวอยู่อย่างนี้”
“หรอฮะ” แขนขาวโอบรอบคอแกร่งเบาๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าของคนทั้งสองใกล้กันมากยิ่งขึ้น “แบบนี้ใช่ไหมฮะ”
“อื้ม” เยซองยิ้มให้กับร่างบางอย่างเอ็นดู
นิ้วแข็งไล้ไปตามเส้นผมสวยของอีกคนอย่างเบามือ “ปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญชาตญาณสิ
เรียวอุค นายรู้สึกยังไง นายก็แสดงออกมา”
“ผมรู้สึกแปลกๆฮะ” เรียวอุคลูบไล้ริมฝีปากของตนเบาๆ ก่อนจะยิ้มสวยสบตากับอีกคนอย่างเขินอาย “แต่ผมชอบนะ”
“เรียวอุค นายไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้นะ
การแสดงมันใช้มุมกล้องเอาก็ได้” เยซองเอ่ยอย่างใจหาย
เมื่อนึกได้ว่า เรียวอุคต้องไปทำอย่างนี้กับคนอื่น ถึงแม้จะเป็นในละครก็เถอะ
“ผมอยากแสดงให้มันสมจริงนี่นา”
เสียงหวานเอ่ยอย่างออดอ้อน “ รีบไปกันเถอะครับ
หายไปนานเดี๋ยวคนสงสัย” เรียวอุคยิ้มหวานก่อนจะจุ๊บไปที่แก้มป่องของผู้จัดการเบาๆ
และดึงมือหนาให้เดินออกไปด้วยกัน
“อ้าว สวัสดีนะ คิมเรียวอุค คนสวย”
เรียวอุคที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้กำลังจะยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม
หันไปมองคนที่ทักทายตัวเองด้วยถ้อยคำแปลกๆ
“คยูฮยอน” เรียวอุคยิ้มให้นักแสดงหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ” คยูฮยอนส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้
นั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ
“ฉันก็สบายดี แล้วนายล่ะ
ไม่ได้เจอกันนานเลย” คยูฮยอนมองรอยยิ้มสวยตรงหน้า
“ก็สบายดีเหมือนกัน” คยูฮยอนยกไวน์ขึ้นจิบ “แล้วผู้จัดการนายล่ะเรียวอุค ฉันเห็นว่าปกตินี่ตัวติดกับนายตลอดเลยนะ
เขาไปไหนซะแล้วล่ะ”
“พี่เยซองไปคุยงานให้ฉันน่ะ เออ
เดี๋ยวฉันมานะคยูฮยอน ไปเข้าห้องน้ำก่อน” เรียวอุคลุกเดินไปที่ห้องน้ำ
คยูฮยอนมองตามจนร่างบางเดินไปลับสายตา รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นมาที่ริมฝีปากหนา
ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบซองผงสีขาวขึ้นมาแล้วเทลงไปในแก้วไวน์ของอีกคนจนหมด
‘หึ โอกาสมาถึงฉันแล้ว
คืนนี้นายจะต้องครวญครางอยู่ใต้ร่างฉัน เรียวอุค’ ความคิดร้ายผุดขึ้นมาในหัวของนักแสดงหนุ่มที่เล็งร่างบอบบางนี้มานานแล้ว
โจ คยูฮยอน ฉากหน้าแม้จะเป็นคนเรียบร้อย แต่แท้จริงแล้วซ่อนความชั่วร้ายไว้ภายใต้หน้ากาก
ไม่ว่าอะไรหรือใครที่เขาอยากได้ เขาต้องได้ รวมไปถึง คิมเรียวอุค
คนนี้ด้วยเหมือนกัน
“คยูฮยอน ยิ้มอะไรคนเดียวน่ะ”
เรียวอุคเดินมาที่โต๊ะเอ่ยทักเมื่อเห็นเพื่อนของตนยิ้มอยู่คนเดียว
“อ๋อ เปล่าๆ นั่งเถอะเรียวอุค
กินน้ำก่อนสิ” คยูฮยอนหยิบยื่นแก้วน้ำสีทับทิมให้อีกคนที่รับไปอย่างง่ายดาย
ก่อนจะกระดกดื่มเข้าไปจนเกือบหมดแก้ว ร่างบางนั่งลงข้างกับคยูฮยอนที่ชวนคุยเพื่อรอเวลาให้ยาที่ว่านั่นออกฤทธิ์...
“อืม
ในงานนี่ร้อนจังเลยนะนายว่าไหม” ร่างบางขยับเสื้อเชิ้ตออกเล็กน้อยหวังว่าจะเป็นการคลายร้อนได้บ้าง
แต่ไม่เลย เหงื่อกลับผุดขึ้นมาเต็มใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อน้อยๆ มือเล็กคอยพัดไปที่หน้าของตัวเองอยู่ตลอด
คิ้วสวยขมวดด้วยความไม่เข้าใจกับอาการของตัวเอง
“ถ้างั้น เราไปนั่งข้างนอกกันไหม
เรียวอุค” คำพูดของคนที่เหมือนจะหวังดีกล่าวขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ยื่นออกมา
เรียวอุคมองอย่างชั่งใจก่อนตัดสินใจวางมือไปบนมือของอีกคน
“จะพาเรียวอุคไปไหน” เสียงเข้มที่คุ้นเคยเอ่ยขัดจังหวะแผนการชั่วร้ายของคยูฮยอน
“สวัสดีครับ พี่เยซอง” คยูฮยอนโค้งน้อยๆให้กับที่คนเดินเข้ามาโดยที่เขาเองก็ไม่คาดคิด “ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
“นายจะพาเรียวอุคไปไหน คยูฮยอน”
ร่างสูงไม่ทักทายตอบหากแต่ย้ำคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงดุดัน
“อ เอ่อ เรียวอุคบอกว่าร้อน
ผมก็เลยจะพาออกไปสูดอากาศข้างนอกน่ะครับ” ดาราหนุ่มเกาหัวแกรกๆ
พยายามหาคำพูดต่างๆมาแถ
“นายร้อนหรอ เรียวอุค?” เยซองหันไปมองร่างบาง
“ใช่ครับ” ร่างบางเริ่มหอบหายใจน้อยๆ
มือเล็กยังคงพัดไม่เลิก
เยซองสังเกตอาการของร่างบางตรงหน้าก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“ฉันจะพาเรียวอุคกลับ
พรุ่งนี้เรียวอุคมีงานแต่เช้า” เยซองหยิบมือเล็กออกจากการกอบกุมของคยูฮยอน
“ไปก่อนนะ คยูฮยอน”
คยูฮยอนมองดูผู้จัดการหนุ่มจอมเฮี้ยบจูงมือคนสวยของเขาเดินออกไป
ร่างสูงถอนหายใจก่อนสบถเบาๆ
“บ้าเอ๊ย” คยูฮยอนแค่นยิ้มมองไปที่แก้วน้ำทรงสูง
ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆให้กับตัวเอง
‘พี่เยซองคงจะรู้สินะ หึ
ฝากไว้ก่อนเถอะ’
เยซองลอบมองอีกคนที่บ่นตลอดทางว่าร้อน
มือเล็กปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนออกเผยให้เห็นแผงอกบางสีน้ำผึ้งที่กระเพื่อมขึ้นลงน้อยๆ
ดวงตาหวานหลับลง คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างรู้สึกทรมาน
“พี่เย่ ผมร้อน” ดวงตาหวานปรือมองคนที่ขับรถด้วยความรู้สึกแปลกๆที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน “พี่เย่ จูบผมหน่อย” เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างออดอ้อนด้วยความไร้เดียงสา
เรียวอุคชอบตอนจูบกับเยซอง นั่นอาจทำให้อาการบ้าๆนี่หายไปก็ได้
“ไม่ได้ เรียวอุค” เสียงเข้มเอ่ยเฉียบขาด ก่อนจะแวะจอดที่ร้านขายยา “นายรอพี่แปปนะ”
เยซองวิ่งหายเข้าไปในร้านขายยาสักพัก
ก่อนจะรีบกลับมาแล้วบึ่งรถไปที่คอนโดของร่างบางอย่างรวดเร็ว
“พี่เยซอง อื้อออ ทำไมมันร้อนจัง”
เรียวอุคยังคงบ่นไม่เลิกแม้กระทั่งตอนเยซองแบกร่างบางมานอนบนเตียงเรียบร้อยแล้ว
นั่นทำให้เยซองหมดห่วงไปได้บ้าง
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคยูฮยอนน่ะเป็นคนยังไง
ไม่คิดว่า ข่าวลือเรื่อง โจ คยูฮยอนจ้องจะงาบ
เรียวอุคอยู่เป็นเรื่องจริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม
เยซองก็เฝ้าดูพฤติกรรมของคยูฮยอนอยู่เสมอทุกครั้งคนคนนั้นมาอยู่ใกล้เรียวอุค
แล้ววันนี้ถ้าหากว่าเขาไม่บังเอิญคุยธุระเสร็จเร็วแล้ว
เรียวอุคจะเป็นยังไงบ้างนะ...
โทษตัวเองได้ไม่นาน เยซองก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง
เมื่อคนที่เงียบไป อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับแขนขาวที่โอบรอบคอแกร่งไว้อย่างรวดเร็ว
“พี่เยซองงงง” เสียงหวานฟังดูยั่วเย้าแปลกๆ ดวงตาหวานฉ่ำสบกับตาคมชวนให้หวั่นไหว “จูบกันนะ”
“ไม่ได้ เรียวอุค” มือหนาจับไหล่อีกคนไว้แน่น คิ้วสวยขมวดอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมล่ะ พี่เยซอง พี่ช่วยผมทีนะ
อื้ออ ผ ผมไม่ไหวแล้ว” มือบางปลดเสื้อเชิ้ตของตนออก
เรือนกายบอบบางสีน้ำผึ้งที่ขึ้นสีระเรื่อน้อยๆปรากฏแก่สายตาของชายหนุ่ม มือเล็กเลื่อนลงไปสัมผัสคลึงกับส่วนล่างของตนที่รู้สึกอึดอัดจนแทบบ้า
“เรียวอุค อย่า” เยซองร้องห้ามเมื่อเห็นร่างบางทำท่าจะปลดกางเกงของตนออก “ไปอาบน้ำอาบท่าให้มันสบายตัวดีกว่านะ”
“ไม่เอาอ่ะ อือออ
พี่เยซองช่วยผมหน่อยย” ขันติแทบจะกลายเป็นขันแตกเมื่อมือเล็กเริ่มเข้ามายุ่มย่ามกับสาบเสื้อของตน
“ไม่เอาน่า เรียวอุค อ อื้มมมมม”
ริมฝีปากหนาถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากบางสีจัดอย่างรวดเร็ว ลิ้นเรียวแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่นอย่างรุกเร้าเอาแต่ใจ
เกี่ยวพันกับลิ้นเรียวอย่างเงอะงะด้วยความด้อยประสบการณ์
จูบที่ไร้เดียงสาของหนุ่มน้อยตรงหน้าทำให้สติของผู้จัดการหนุ่มแตกกระเจิง ลิ้นเรียวรุกล้ำตอบกลับไปด้วยสัมผัสที่ร้อนแรงยิ่งกว่า
แผ่นหลังบางถูกดันแนบกับที่นอนนุ่มโดยไม่รู้ตัว เรือนกายบอบบางสั่นระริกกับจูบร้อนแรงที่ทำให้เขาแทบจะละลายกลายเป็นน้ำคาอกแกร่ง
“แฮ่ก แฮ่ก พี่เยซอง อื้อออ”
เยซองผละออกมาได้ไม่นาน
แขนขาวที่โอบรอบคอเขาอยู่ก็โน้มใบหน้าหล่อลงมา
เรียวลิ้นสั่นระริกของคนที่อ่อนประสบการณ์สอดเข้าไปในโพรงปากอุ่นอีกครั้ง
กลิ่นกายหอมหวานยวนใจ ผิวกายนุ่มนิ่มสัมผัสไปตรงไหนก็ลื่นมือไปหมด
เนื้อกายที่เบียดเสียดสีกันแนบชิดมีเพียงอาภรณ์บางๆกั้น เสียงหวานครางต่ำในลำคอ
ยังไม่รวมถึงจูบหวานๆอันแสนจะไร้เดียงสานี่อีก ทั้งหมดนี้ทำให้เยซองแทบคลั่ง
อยากจะกลืนกินเรียวปากบางเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก...
เยซองค่อยๆดันตัวขึ้นจากเตียง
แขนแกร่งกอดร่างบางไว้แนบชิด หน้าผากของคนทั้งสองชนกัน
เรียวอุคค่อยๆลืมตาขึ้นมามองคนตรงหน้าที่อยู่ๆก็หยุดรุกล้ำ
“พี่เยซอง?” เสียงหวานเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“เรียวอุค” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วเบา
“พี่ขอโทษ”
เรียวอุคเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ทันใดนั้นผ้าสีขาวก็มาโปะที่จมูกของตน
กลิ่นแปลกๆที่ล่องลอยเข้าจมูกของร่างบางทำให้สติดับวูบไป
เยซองมองดูคนตัวเล็กที่หลับไปเพราะฤทธิ์ของยาสลบ
ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแสดงว่าร่างบางเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ร่างสูงมองดูผ้าสีขาวในมือแล้วถอนหายใจเบาๆ
เขาคิดแล้ว...ว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถึงได้แวะร้านยาซื้อยาสลบก่อน
“พี่ขอโทษนะเรียวอุค
แต่ทั้งนี้มันก็เพื่อตัวนายเอง” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน
มือหนาลูบหัวทุยของคนที่นอนหลับสนิทเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนให้กับเรียวอุคและกลับบ้านไป...
“อ อื้อ พี่เยซอง” เสียงหวานละเมอ งัวเงียก่อนจะที่รู้สึกตัวตื่น
มือเล็กขยี้ตาตัวเองเบาๆแล้วมองไปรอบๆห้องอย่างประหลาดใจ
“เอ เมื่อคืนนี้” เรียวอุคพยายามเค้นเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ก่อนจะเบิกตากว้างและรีบมองดูสำรวจตัวเอง คนตัวเล็กถอนหายใจเบาๆ
แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
“พี่เยซอง” เสียงหวานเอ่ยชื่อของผู้มาเยือนแผ่วเบา
ผู้จัดการหนุ่มยิ้มบางๆ ในมือถืออาหารเช้าที่แวะซื้อมาให้คนตัวเล็กกิน
“กินมื้อเช้าก่อนนะเรียวอุค
งานถ่ายแบบตอนเช้าเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็มีงานอีกทีตอนบ่ายนะ
พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ” เรียวอุคมองดูผู้จัดการหนุ่มของตนเดินเข้าไปในครัว
พร้อมกับหยิบจานชามออกมาเทอาหารเช้าให้ตนเรียบร้อย
“พี่ เอ่อ ไปก่อนนะ” ว่าแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่ามือเล็กที่เกาะชายเสื้อของตนเอาไว้
“อยู่กับผมก่อนนะครับ”
“อื้ออ อื้มมม” เสียงหวานครางต่ำในลำคอ เมื่อลิ้นเรียวลากไล้ไปตามเพดานปาก
ปลุกเร้าให้ความรู้สึกแปลกๆมันแล่นขึ้นมา ร่างบางนั่งอยู่บนเคาท์เตอร์ครัว
”ฝึกพิเศษ”
กับผู้จัดการหนุ่มที่หลงระเริงไปกับจุมพิตหอมหวานไร้เดียงสา
ความยั่วยวนแบบไม่ได้ตั้งใจของร่างบางยิ่งกระตุ้นอารมณ์ด้านมืดของชายหนุ่มให้ลุกโชน
มือเล็กที่โอบล้อมลำคอแกร่งเลื่อนลงมาด้านล่าง
สอดเข้าไปใต้ร่มผ้าสัมผัสกับหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อแข็งตึงของชายหนุ่มช้าๆ
“ระ เรียวอุค” เยซองผละออกอย่างนุ่มนวล
ร่างสูงก้มมองดูมือเล็กที่เคลื่อนออกจากหน้าท้องของตัวเอง เสียงแหบพร่าออกจะสั่นเครือน้อยๆเอ่ยกับคนตัวเล็กอย่างพยายามควบคุมสติ
"เรียวอุคไม่จำเป็นต้องสอดมือเข้ามาใต้เสื้อนะ"
“ทำไมล่ะครับ” ใบหน้าหวานเอียงคอน้อยๆ มือเล็กไม่ได้ห่างออกจากบริเวณนั้นเลย
แต่กลับไปวางอยู่ที่ขอบกางเกงของอีกคน “พี่เย่บอกว่า
ปล่อยให้เป็นไปตามสัญชาตญาณไม่ใช่หรอ”
เยซองมองดูมือเล็กที่ยังคงซุกซน
นิ้วชี้กรีดลากไปตามแผงอกแกร่งช้าๆ ลงมาที่หน้าท้องที่มีมัดกล้ามเนื้อแน่น
มือเล็กลูบไล้สัมผัสมันอย่างหลงใหล สายตาหวานสบกับตาคม
ใบหน้าหวานเลื่อนไปที่ลาดไหล่แกร่ง
ริมฝีปากบางขบเม้มเบาๆไปที่ผิวขาวจนมันขึ้นรอยแดงจัด เสียงหวานกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหู
“ผมกับพี่
เราไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกันเลยหรอ”
ร่างสองร่างนอนตระกองกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง เยซองนอนมองใบหน้าหวานที่หลับสนิท
เขาชอบตอนที่ได้เห็นหน้าใสๆไร้เครื่องสำอางของเรียวอุคแบบนี้มากกว่า ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวยามลากไล้ปลายนิ้วไปบนจมูกโด่งรั้นนั่น
แต่ก็แกล้งได้ไม่นานเมื่อคนที่กำลังหลับสบายลืมตาตื่นขึ้นมา
“พี่เยซอง” เรียวอุคยิ้มหวานให้กับอีกคน
“ผมมีความสุขจังเลย ผมฝันไปหรือเปล่าฮะ”
เยซองยิ้มให้ร่างบางด้วยความเอ็นดู
มือหนาดึงร่างบอบบางของอีกคนให้เข้ามาแนบอกแข็ง ลูบไปที่หัวทุยเบาๆด้วยความรัก
“เรื่องจริงครับ คนสวย” ร่างหนาผละออกมาสบตาหวานซึ้งกับคนในอ้อมกอด “พี่รักเรียวอุคนะครับ”
ริมฝีปากหนากดจูบแผ่วเบาไปที่เรียวปากบาง
เอ่ยคำบอกรักแนบชิดริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้สมกับความรู้สึกที่เก็บงำมานาน
ใครเลยจะไปรู้ว่าผู้จัดการคนนี้หลงรักหนุ่มน้อยนักแสดงหน้าใหม่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะเก็บความรู้สึกพิเศษนั่นไว้
คงจะเป็นการดีกว่าสำหรับการโลดแล่นในวงการของเรียวอุค
“จะเที่ยงแล้ว ไปกินข้าว กินปลา
แล้วก็ไปทำงานกันนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยหลังจากผละออกมาอย่างอ่อนโยน
ร่างสูงกำลังจะลุกออกจากเตียงกว้างแต่แล้วก็ต้องลงไปนอนกับเตียงอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กพลิกตัวมาคร่อมตนเองไว้อย่างรวดเร็ว
มือเล็กลูบไล้ไปทั่วแผงอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อดีอย่างหลงใหล ริมฝีปากบางบดจูบเคล้าคลึงชวนให้ซาบซ่าน
เสียงหวานกระซิบแผ่วเบากับคนที่อยู่ใต้ร่าง
“อาหารก็อยู่ตรงหน้านี่แล้ว พี่ก็ ‘กิน’ ซะทีสิครับ” สายตายั่วยวนแบบที่เยซองไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะทำได้ส่งมาให้
ร่างสูงยิ้มมุมปากก่อนจะพลิกตัวให้คนน่ารักไปอยู่ใต้ร่าง
ริมฝีปากหนาจรดเบาๆไปที่หน้าผากเนียน
“ไปทำงานสายไม่ดีนะครับเด็กดื้อ
เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอกรู้ไหม” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยชวนให้หลงใหลก่อนจะลุกออกไปจากเตียงอย่างรวดเร็ว
ปล่อยให้คนตัวเล็กมองตามด้วยอาการ “ค้าง” ริมฝีปากบางกัดปากน้อยๆ
สูดลมหายใจเข้าช้าๆข่มความรู้สึกแปลกประหลาดที่แล่นขึ้นมาจากปลายเท้า
“เฮ้ เยซอง” ผู้จัดการหนุ่มหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะยิ้มให้กับคนที่เข้ามาทักทาย
“หวัดดี คังอิน ไม่ได้เจอกันนานเลย”
เยซองกอดคออีกคนที่ทำแบบเดียวกัน
วันนี้เขาเข้าบริษัทมากับเรียวอุค ที่มาถ่ายแบบโปรโมทโครงการใหม่ของบริษัทต้นสังกัด
“เป็นไงบ้าง เด็กนาย เรียวอุคน่ะ
เห็นว่างานเยอะใหญ่เลยนิ” คังอินถามอีกคนที่กำลังมองร่างบางยิ้มหวานให้กับกล้อง
“อืม เรียวอุคเป็นเด็กดีน่ะ
เหมือนจะเรียบร้อย” ถ้าเป็นเมื่อก่อนเยซองคงจะพูดว่าเรียวอุคเป็นเด็กเรียบร้อยไปแล้ว
ถ้าไม่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าขึ้นมาก่อน
“เหมือนจะหรอ ยังไงวะ” คังอินขมวดคิ้ว
“อ๋อ เปล่าๆ” เยซองส่ายหน้า คังอินมองเพื่อนตัวเองอย่างงงๆ
ก่อนะทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“เออ
ใกล้ถึงวันเกิดเรียวอุคแล้วใช่ไหม” เยซองฟังที่เพื่อนพูดแล้วก็นึกขึ้นมาได้
“เรียวอุคอายุเท่าไรแล้วล่ะปีนี้”
“18 น่ะ”
“ปีนี้ 18 งั้นหรอ
อ่า แล้วนายจะจัดงานให้เรียวอุคที่ไหนล่ะ” คังอินถามด้วยความสงสัย
“อืมมม ไม่รู้สิ
น่าจะร้านอาหารที่ไหนสักที่” เยซองทำหน้าครุ่นคิด
“ฉันขอเสนอนะ เยซอง” เยซองหันมามองเพื่อน “ปีนี้เรียวอุคอายุ 18 แล้วใช่ม้า ทำไมนายไม่จัดที่ผับไปเลยล่ะ ผับใต้คอนโดเรียวอุคไง”
“ไม่อ่ะ” เยซองสวนขึ้นมาทันควัน
เขาไม่อยากให้เด็กน้อยของเขาต้องเข้าไปในที่อันตรายแบบนั้น
ถึงแม้ว่าจะเป็นผับใต้คอนโดนี่เองก็เถอะ
“ทำไมวะ
เรียวอุคก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเว้ย ถือว่าเป็นการเปิดซิง อิอิ”
“เปิดซิงพ่อง”
“ทำไมล่ะวะ
เรียวอุคหน้าหวานซะขนาดนั้น ไม่แน่วันเกิดปีนี้ จัดในผับ อาจมีทั้งสาวน้อย หนุ่มน้อยมาตอมกันให้ตรึมเลยก็ได้”
คังอินพูดไปยิ้มไป แต่ยิ่งพูดเยซองก็ยิ่งห่วงเนี่ยสิ
“เออ ก็คงต้องถามเรียวอุคดูอีกที
ว่าอยากไปเลี้ยงฉลองที่ไหน”
“เออ แต่อย่าลืมนะเว้ย จัดที่ผับ
เดี๋ยวจะไป 5555555” เยซองทำท่าจะยกเท้าขึ้นมาเตะเพื่อนตัวดี
ก่อนคังอินจะร่ำลาเพื่อไปดูแลศิลปินในปกครองของตัวเองบ้าง
“เรียวอุค วันเกิดปีนี้
อยากเลี้ยงฉลองที่ไหนเป็นพิเศษไหม” เยซองถามขึ้นมาในขณะที่มาส่งคนตัวเล็กที่คอนโด
ร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟารอเรียวอุคที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เอ ไม่รู้สิฮะ” เสียงหวานดังมาก่อนตัวที่อยู่ในห้องนอน
เรียวอุคเดินออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัวโคร่งยาวเกือบถึงเข่า
ร่างบางนั่งลงข้างๆกับผู้จัดการหนุ่ม “ปีนี้ผม 18 แล้ว จัดที่ผับได้ไหมอ่ะครับพี่เยซอง” ใบหน้าหวานถูไถกับแขนแกร่งอย่างอ้อนๆ
“ไวไฟจังนะเรา” เยซองบีบจมูกโด่งรั้นของคนน่ารักเบาๆ “เดี๋ยวพี่จะบอกกับทางค่ายให้ละกัน”
“เย้ๆๆๆ ขอบคุณครับ
รักพี่เย่ที่สุดเลยน้า” เรียวอุคเอื้อมตัวมากดจูบไปที่แก้มป่องของร่างสูง
“แค่ขอบคุณไม่พอ
มีรางวัลเป็นจูบหวานๆให้พี่บ้างไหมน้า”
ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าไปใกล้อีกคนที่สบตาคมอย่างเขินอาย
“พี่เย่อ่ะ อื้อออ” เสียงหวานประท้วงได้ไม่เท่าไร ริมฝีปากหนาก็ฉกวูบลงมา
มือหนาซุกซนลูบไล้ไปทั่วต้นขาขาว แผ่นหลังบางถูกกดแนบกับโซฟาช้าๆ...
ในที่สุดวันที่ 21 มิถุนายน ก็มาถึง
ปาร์ตี้วันเกิดอายุครบ 18 ของนักแสดงหนุ่มน้อย ภายในผับสุดหรูสถานที่จัดงานเต็มไปด้วยดารา
นักร้อง เพื่อนร่วมวงการมาแสดงความยินดีมากมาย และเป็นอย่างที่คังอินพูดไม่มีผิด ทั้งสาวน้อย
หนุ่มน้อยต่างมารุมตอมเรียวอุคที่วันนี้ดูดีเป็นพิเศษในงานวันเกิดของตัวเอง
แต่ส่วนใหญ่ที่เข้าไปหาน่าจะเป็นหนุ่มๆเสียมากกว่า
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ เรียวอุค”
ชายหนุ่มสูงหล่อยื่นช่อดอกไม้ช่อโตให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาสีแดง
“ขอบคุณมากนะครับ คุณมินโฮ”
ร่างบางยิ้มหวาน
หยิบช่อดอกไม้ไปวางกองรวมกับช่อดอกไม้นับสิบช่อที่ได้มาในวันนี้
“วันนี้ น้องเรียวอุคดูสวย เอ๊ย
น่ารักเป็นพิเศษเลยนะครับ” ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยชม สายตาคมกรุ้มกริ้มแอบมองร่างบางอย่างโลมเลีย
“ฮ ฮะ ขอบคุณมากนะครับ” คำพูดในตอนต้นของประโยคทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก
ก่อนจะตอบรับอย่างอ้อมแอ้ม
ท่ามกลางผู้คนที่มาร่วมงานวันเกิดของเขา ร่างบางยังคงชะเง้อมองหาคนสำคัญอีกคนหนึ่ง
ที่ไม่เห็นวี่แววตั้งแต่เริ่มงาน
‘พี่เยซองไปไหนนะ’ เรียวอุคคิดในใจพลางก้มมองดูโรศัพท์ ไม่มีแม้แต่มิสคอลหรือข้อความใดๆส่งมาจากคนตัวสูงทั้งสิ้น
ร่างบางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะกระดกเครื่องดื่มสีทับทิมเข้าไปแก้วแล้วแก้วเล่า…
“น้องเรียวอุค
ไปเต้นกับพี่หน่อยนะครับ” ชายหนุ่มรุ่นพี่ในวงการชวนร่างบางที่เอาแต่นั่งดื่มตั้งแต่ต้นงานไปกลางฟลอร์
เรียวอุคชั่งใจอยู่สักพักจึงลุกขึ้นตามออกไป
เรียวอุคบดเบียดร่างเข้ากับอกแกร่งของชายหนุ่ม
เสียงดนตรีที่ปลุกเร้าจังหวะในกายเล็กให้เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ
ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ร่างบางดื่มมากไปหน่อย
ส่งผลให้ร่างบอบบางตอนนี้แทบจะกลืนเป็นร่างเดียวกับชายหนุ่ม
“อ่ะ คิกๆ” เสียงหัวเราะหวานใสดังขึ้นเมื่อ
จมูกโด่งของชายหนุ่มสูดดมความหอมหวานจากซอกคอขาว
ใบหน้าหวานเบือนออกคล้ายจะหลบสัมผัสแต่เปล่าเลย ดวงตาหวานหลับพริ้มอย่างเคลิบเคลิ้มกับริมฝีปากหนาขบเม้มไปตามผิวสวย
แขนขาวโอบล้อมรอบคอแกร่งให้กายแนบชิดกันมากขึ้น
ความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมาจากปลายเท้าเหมือนกับความรู้สึกที่เขาจูบกับเยซอง
ความรู้สึก...ที่เด็กอย่างเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“อ่ะ ขอโทษนะครับ” มือเล็กดันอกแกร่งออกเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากฟลอร์ไป
ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงเป็นไก่ตาแตก
เรียวอุคเดินออกจากผับที่จัดงานไปที่ลิฟต์
เพื่อที่จะขึ้นไปนอนบนห้องของตัวเอง อาการปวดหัวตึ้บแปลกๆแล่นขึ้นมาจนต้องจับที่ไปหน้าผากเนียนของตน
ลิฟต์เลื่อนจากชั้นลานจอดรถใต้ดินมาชั้นที่ผับตั้งอยู่
ขาเล็กจะก้าวเข้าไปในกล่องสี่เหลี่ยม แต่แล้วดวงตาหวานก็เบิกกว้างขึ้นอย่างดีใจ
เมื่อเห็นว่าใครอยู่ข้างในพร้อมกับกล่องของขวัญกล่องโต
“เรียวอุค” ผู้จัดการหนุ่ม
คนที่เขารอคอยยิ้มอบอุ่นให้เหมือนอย่างที่เคย เรียวอุคก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ที่พาคนทั้งสองไปที่ห้องพักของตนอย่างรวดเร็ว
“ทำไมพี่มาช้าจัง” เสียงหวานเอ่ยอย่างงอนๆเมื่อมาถึงห้องพักของตน
เรียวอุคนั่งลงกับโซฟาตามมาด้วยร่างสูงที่นั่งลงเคียงข้าง
“พอดีพี่ไปคุยงานให้เราน่ะคนดี”
เยซองเขยิบเข้าไปใกล้ร่างบางแสนงอนช้าๆ มือหนาเชยใบหน้าหวานให้ขึ้นมาสบตาหวานซึ้ง
“พี่จับคนโกหกได้คนนึง” เรียวอุคเบิกตากว้างขึ้นน้อยๆเมื่อเยซองบอก
สายตาคมที่มองมาทำให้ร่างบางยิ่งทำอะไรไม่ถูก “พี่ไปคุยกับผู้กำกับละครที่เรียวอุคเล่น
เขาบอกว่าละครไม่มีฉากเลิฟซีนอยู่แล้ว”
ร่างบางนิ่งเงียบหันไปมองอีกคนช้าๆ
ดวงตาหวานกลมโตสั่นระริกแปลกๆยามที่สบกับตาคม
แต่ดันมีเด็กน้อยมาขอให้พี่สอนจูบเนี่ย
หมายความว่ายังไงครับ”
“เอ่อ คือ” ร่างบางอ้ำอึ้ง
เยซองมองกริยาเหล่านั้นด้วยความเอ็นดู
มันเหมือนเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกพ่อแม่จับได้ ที่จริงเยซองไม่ได้โกรธอะไรร่างบางหรอก
พูดตรงๆกลับชอบเสียด้วยซ้ำ
“พี่เยซองงง” ร่างบางซบกับไหล่แกร่งอย่างออดอ้อน ร่างสูงยิ้มที่มุมปาก หึ
คิดจะมาไม้ไหนล่ะเนี่ยเด็กน้อยของเขา “พี่เยซองอย่าโกรธเรียวอุคเลยนะครับ
ผมหวังดีกับพี่เยซองนะ”
“หวังดี ยังไงครับ” เยซองเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ หันไปมองหัวทุยที่ซบอยู่กับไหล่ของตน
“ก็ผมอ่ะ เอ่อ บ้าจริง
จะพูดได้ยังไงเล่า!!” ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอาย
เยซองกอดรัดเอวบางที่จะขยับหนีให้มาแนบชิดตน
ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าไปให้ใบหน้าทั้งสองชิดกันมากขึ้น
“อะไรครับ เด็กน้อย” เสียงทุ้มนุ่มชวนให้ใจสั่นเค้นถามด้วยความอยากรู้
“ก็ผมอ่ะ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาสบตาคม
“ชอบพี่นี่นา”
คนตัวเล็กซุกใบหน้าลงกับอกแกร่งอย่างเขินอายเป็นที่สุด
ร่างสูงยิ้มจนตาปิดด้วยความอิ่มใจ มือหนาลูบหัวทุยเบาๆด้วยความรัก
“แล้วผมก็รู้นะ ว่าพี่อ่ะชอบผม”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ความเขินอายฉายออกมาเด่นชัดในดวงตาคู่สวย
“แต่พี่อ่ะ ก็ไม่เข้ามาจีบผมซะที ผมก็เลยต้องวางแผนหลอกล่อซะหน่อย”
ร่างบางลากไล้นิ้วชี้ขึ้นลงบนท่อนแขนแกร่ง
“ร้ายนักนะ” เยซองส่งสายตาหมั่นเขี้ยวไปให้คนน่ารัก
“อยากเห็นผมร้ายกว่านี้ไหมล่ะ”
ไม่พูดเปล่า กายเล็กขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่งอย่างรวดเร็ว
แขนขาวโอบรอบคอแกร่งรั้งให้กายทั้งสองแนบชิดกันยิ่งขึ้น
“จะทำอะไร เรียวอุค” ร่างสูงเองยอมรับว่าตกใจเล็กน้อย
เมื่อร่างบางขึ้นมานั่งบดเบียดสะโพกเสี่ยงที่จะให้อะไรๆมันตื่นขึ้นมาเหลือเกิน “ลงไปได้แล้ว เด็กดื้อ”
“ผมไม่เด็กแล้วนะ” ใบหน้ายู่ลงอย่างน่ารัก เนื้อกายบดเบียดแนบชิดกันชวนให้หวั่นไหว “พี่อ่ะ ใจร้ายมากรู้ไหม”
“พี่ใจร้าย ยังไงครับ” เยซองเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ มือหนาเลื่อนไปโอบล้อมเอวคอดบางไว้หลวมๆ
“วันที่ไอ่คยูมันวางยาผมอ่ะ
ผมไม่เป็นอะไรมากหรอก แต่ผมก็อุตส่าห์ยั่วพี่ แล้วพี่อ่ะ ดันโปะยาผมซะอย่างนั้น”
ร่างบางคาดโทษอีกคนที่มองมาด้วยสายตานิ่งๆ “ผมก็นึกว่าพี่แวะเข้าร้านยาไปซื้อถุงยางซะอีก
เหอะ!! เซ็งชะมัด”
“ปัดโธ่ เรียวอุค นายยังเด็กนะ
ถ้าพี่ทำอะไรนายพี่ไม่ติดคุกหรือไง”
“พี่อ่ะ
แล้วใครจะมารู้ได้ไงว่าเราทำอะไรกัน” คนที่นั่งอยู่บนกายสูงยังเถียงไม่เลิก
“ฮ่าๆๆๆๆ ช่างมันเถอะ” เยซองไล้นิ้วไปตามเส้นผมสวยด้วยความเอ็นดู “พี่รักเรียวอุคนี่นา
เรื่องอย่างนั้นไม่เห็นจะจำเป็น”
“จำเป็นสิฮะ!! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้ผม 18 แล้วน้า” เรียวอุคขยับสะโพกน้อยๆจงใจให้ส่วนล่างของทั้งคู่บดเบียดกันจนร่างบางรู้สึกได้ถึงส่วนของอีกคนที่เริ่มแข็งตึง
ใบหน้าหวานเลื่อนไปกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหู “หรืออีกนัยหนึ่งที่ผมจะบอกคือ
พี่สามารถ ’กอด’ ผมได้อย่างถูกกฏหมายแล้วนะครับ”
เยซองแทบจะลมจับกับทุกความคิดทุกการกระทำของร่างบาง
แบบนี้หรือเปล่า ที่เขาเรียกว่า “แรดเงียบ”
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ
ว่าแมวน้อยของพี่ที่แท้แล้วก็คือเสือดีๆนั่นเอง”
“เมี๊ยวววว” ร่างบางขยิบตา
เสียงแหลมเล็กดัดเสียงเลียนแบบแมว พร้อมกับมือเล็กที่ข่วนเบาๆไปที่อกแกร่ง คิมเรียวอุคคงไม่รอดแล้วล่ะคืนนี้
บอกตรงๆ -..-
“นายจะทำพี่ทนไม่ไหวนะครับ”
มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง
สัมผัสกับผิวนุ่มลื่นมือที่ทำให้เขาแตกกระเจิงได้ทุกที จมูกโด่งกดเบาๆไปที่แก้มใส
“แล้วใครให้พี่ทนล่ะฮะ อ๊ะ” มือเล็กสัมผัสกับท้ายทอยของอีกคนเบาๆ
ก่อนรีบเกาะลำคอแกร่งเอาไว้ เมื่ออีกคนลุกจากโซฟาไปที่ห้องนอน
แผ่นหลังบางถูกวางแนบไปกับที่นอนนุ่ม ตามมาด้วยกายสูงทาบทับลงมา
“สุขสันต์วันเกิดนะ เรียวอุคของพี่”
ร่างบางยิ้มตาหยี เมื่อคนรักกล่าวถ้อยคำสุขสันต์วันเกิด ริมฝีปากหนาบดจูบไปที่เรียวปากสีเชอร์รี่ด้วยความรัก
มือหนาลูบไล้ไปตามสีข้างยิ่งทำให้อารมณ์พิศวาสปะทุ จุมพิตหวานซ่านจากร่างสูงยิ่งทำให้เด็กน้อยหลงใหล
เสียงหวานครางต่ำในลำคออย่างชอบใจ ร่างสูงผละออกจากแหล่งน้ำหวานไปที่ซอกคอหอมกรุ่น
ขบเม้มฝากรอยรักไว้เป็นแดงจางๆ
“อ่ะ พี่เย่ ด เดี๋ยวก่อน” เสียงหวานสั่นอย่างควบคุมอารมณ์
มือเล็กดันอกแกร่งของคนที่กำลังมัวเมาในกายเล็กออกเบาๆ “ครั้งแรกของผม
ขอที่ห้องน้ำได้ไหมฮะ ในอ่างอาบน้ำ”
“อ่างอาบน้ำหรอ อ่า
พี่ก็อยากลองมานานแล้ว” ร่างสูงยิ้มที่มุมปาก
ก่อนจะยกอีกคนเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก
เสียงหวีดหวานประสานเสียงครางต่ำก็ดังระงมตลอดคืนในห้องสี่เหลี่ยมที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งรักนั้น...ในค่ำคืนสุดแสนพิเศษของร่างบาง
แถมๆ
“อ๊ะ ซี้ดดดดด พี่เย่”
ใบหน้าหวานสะบัดเชิดขึ้นเมื่ออีกคนกระแทกสะโพกเข้ามาหนักหน่วง ในอ่างอาบน้ำแสนคับแคบ
ยังมีร่างบางที่ขย่มโยกถี่รัวอยู่บนกายสูง ริมฝีปากบางครางออกมาอย่างสุขสมปนทรมาน
“อึก แน่นดีชะมัด
เรียวอุค อ่า”
“ร แรงอีก อื้อ อึก
เข้ามาลึกๆสิฮะ” ร่างบางกดสะโพกให้ส่วนปลายของอีกคนกระแทกเข้ามาได้ลึกยิ่งขึ้น
“น นาย จะเจ็บนะ
เดี๋ยวก็เดินไม่ไหวหรอก”
“ช่างมัน อ่ะ อ๊า ใช่
ตรงนั้น อื้อออออ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น